ระบบสืบพันธุ์ (อังกฤษ: Reproductive system)
บทความนี้มีเนื้อหาบางส่วนที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก อย่างไรก็ตาม
เยาวชนควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน และผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ
เป็นระบบของอวัยวะในร่างกายสิ่งมีชีวิตซึ่งทำงานร่วมกันโดยมีจุดประสงค์เพื่อการสืบพันธุ์เพิ่มจำนวนสิ่งมีชีวิตให้มากขึ้น ในระบบนี้จำเป็นต้องอาศัยสารต่างๆ อาทิ ของเหลว ฮอร์โมน และฟีโรโมนหลายชนิดเพื่อช่วยเหลือในการทำงาน ระบบสืบพันธุ์เป็นระบบซึ่งแตกต่างจากระบบอวัยวะอื่นๆ กล่าวคือระบบเพศของสัตว์ต่างชนิดกันก็มีความแตกต่างกัน ความหลากหลายนี้ก่อให้เกิดการผสมรวมกันของสารพันธุกรรมระหว่างสิ่งมีชีวิตสองตัว เพื่อเพิ่มความสามารถในการดำรงอยู่ในสิ่งแวดล้อมของลูกหลานต่อไป
ระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์
อวัยวะสำคัญของระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ อาทิ อวัยวะเพศภายนอก (องคชาตและช่องสังวาส) และอวัยวะภายในจำนวนมากได้แก่ต่อมเพศซึ่งผลิตเซลล์สืบพันธุ์ (อัณฑะและรังไข่) โรคในระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ซึ่งมักจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นพบได้บ่อยและแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง
โดยทั่วไป สัตว์มีแกนสันหลังชนิดอื่นๆ มีระบบสืบพันธุ์ที่ประกอบด้วยต่อมเพศ ท่อและรูเปิดคล้ายคลึงกับมนุษย์ แต่ก็มีความหลากหลายทางกายภาพอันเกิดจากการปรับตัวในสัตว์มีแกนสันหลังทุกกลุ่ม
การสืบพันธุ์ของมนุษย์เกิดขึ้นแบบปฏิสนธิภายในโดยการร่วมเพศ ในกระบวนการดังกล่าวองคชาตของเพศชายจะสอดใส่ในช่องคลอดของเพศหญิงจนกระทั่งเพศชายหลั่งน้ำอสุจิซึ่งประกอบด้วยอสุจิเข้าไปในช่องคลอดของเพศหญิง อสุจิซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธุ์เพศชายจำนวนมากจะเคลื่อนที่ผ่านช่องคลอดและปากมดลูกเข้าไปในมดลูกหรือท่อนำไข่เพื่อปฏิสนธิกับไข่ หลังการปฏิสนธิและฝังตัวจะเกิดการตั้งครรภ์ของทารกในครรภ์ขึ้นภายในมดลูกของเพศหญิงซึ่งใช้เวลาประมาณ 9 เดือน การตั้งครรภ์จะสิ้นสุดลงเมื่อทารกคลอด การคลอดนั้นต้องอาศัยการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก การเปิดออกของปากมดลูก แล้วทารกจึงจะผ่านออกมาทางช่องคลอดได้ ทารกนั้นจะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และต้องอาศัยการดูแลจากผู้ปกครองเป็นเวลาหลายปี หนึ่งในการดูแลดังกล่าวคือการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ซึ่งต้องอาศัยต่อมน้ำนมที่อยู่ภายในเต้านมของเพศหญิง
ในมนุษย์มีการเจริญและพัฒนาของระบบสืบพันธุ์อย่างมากมาย นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงในเกือบทุกอวัยวะในระบบสืบพันธุ์แล้วนั้น ยังพบการเปลี่ยนแปลงอีกในลักษณะเฉพาะทางเพศขั้นทุติยภูมิ (secondary sexual characteristics)
ระบบสืบพันธุ์เพศชาย
ระบบสืบพันธุ์เพศชายประกอบด้วยอวัยวะที่อยู่ภายนอกร่างกายและรอบๆ บริเวณเชิงกรานซึ่งทำหน้าที่ในกระบวนการสืบพันธุ์ หน้าที่หลักโดยตรงของระบบสืบพันธุ์เพศชายคือการสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศชายหรือสเปอร์มาโทซัว (spermatozoa) เพื่อใช้ผสมพันธุ์กับไข่
อวัยวะสืบพันธุ์เพศชาย
1. อัณฑะ, 2. เอพิดิไดมิส, 3. คอร์ปัส คาร์เวอร์โนซา, 4. หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย, 5. เส้นสองสลึง, 6. รูเปิดท่อปัสสาวะ , 7. ส่วนหัวอวัยวะเพศ, 8. คอร์ปัส สปองจิโอซัม, 9. องคชาต, 10. ถุงอัณฑะ
อวัยวะสืบพันธุ์เพศชายแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือการสร้างและเก็บตัวอสุจิ การสร้างตัวอสุจิเกิดขึ้นภายในอัณฑะที่อยู่ภายในถุงอัณฑะซึ่งช่วยควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม อสุจิที่ยังไม่เจริญเต็มที่จะเคลื่อนที่ไปยังเอพิดิไดมิส (epididymis) เพื่อพัฒนาและกักเก็บ อวัยวะในกลุ่มที่สองคือต่อมสร้างของเหลวในการหลั่งน้ำอสุจิซึ่งได้แก่ถุงน้ำอสุจิ (seminal vesicles), ต่อมลูกหมาก (prostate) และหลอดนำอสุจิ (vas deferens) และในกลุ่มสุดท้ายคืออวัยวะที่ใช้ในการร่วมเพศและหลั่งน้ำอสุจิในเพศหญิงได้แก่องคชาต ท่อปัสสาวะ หลอดนำอสุจิ และต่อมคาวเปอร์
ลักษณะเฉพาะทางเพศขั้นทุติยภูมิในเพศชายได้แก่ การมีร่างกายสูงใหญ่ โครงร่างกายมีกล้ามเนื้อมากขึ้น เสียงห้าวทุ้ม มีขนตามใบหน้าและลำตัว ไหล่กว้างขึ้น การเจริญของลูกกระเดือกฮอร์โมนที่สำคัญในเพศชายคือแอนโดรเจนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเทสโทสเตอโรน
ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
อวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงภายนอก
1. ขนหัวหน่าว, 2.หนังหุ้มคลิตอริส, 3. คลิตอริส, 4. แคมใหญ่, 5. แคมเล็ก (ปิดช่องคลอด), 6. ฝีเย็บ
ระบบสืบพันธุ์เพศหญิงประกอบด้วยอวัยวะซึ่งส่วนใหญ่อยู่ภายในร่างกายและรอบๆ บริเวณเชิงกรานซึ่งทำหน้าที่ในกระบวนการสืบพันธุ์ ระบบสืบพันธุ์เพศหญิงประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ช่องคลอดทำหน้าที่รองรับอสุจิจากเพศชาย, มดลูกซึ่งช่วยรองรับทารกในครรภ์ และรังไข่ทำหน้าที่ผลิตไข่ เต้านมก็เป็นอวัยวะสืบพันธุ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งในระยะการดูแลทารก
ช่องคลอดจะเปิดออกภายนอกที่โยนีซึ่งประกอบด้วยแคม คลิตอริส และท่อปัสสาวะ ในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์บริเวณเหล่านี้จะหล่อลื่นด้วยเมือกซึ่งคัดหลังจากต่อมบาร์โธลีน (Bartholin's glands) ช่องคลอดต่อเนื่องกับมดลูกโดยมีปากมดลูกอยู่ระหว่างกลาง ในขณะที่มดลูกต่อเนื่องกับรังไข่ผ่านทางท่อนำไข่ ในทุกๆ ช่วงรอบประมาณ 28 วันรังไข่จะปล่อยไข่ออกมาผ่านท่อนำไข่เข้าไปยังมดลูก เยื่อบุมดลูกซึ่งดาดอยู่ด้านในมดลูกและไข่ที่ไม่ได้รับการผสมกับอสุจิจะไหลออกและถูกกำจัดออกไปทุกรอบเดือน ซึ่งเราเรียกกระบวนการนี้ว่า การมีประจำเดือน (menstruation)
ลักษณะเฉพาะทางเพศขั้นทุติยภูมิในเพศหญิงได้แก่ การมีร่างกายเล็กกว่าเพศชาย ร่างกายมีร้อยละของไขมันสูง สะโพกกว้างขึ้น การเจริญของต่อมน้ำนมและเต้านมขยายขนาด ฮอร์โมนเพศที่สำคัญในเพศหญิงคือเอสโตรเจนและโพรเจสเตอโรน
Friends talk contact man love
manes2006@ovi.com
Recommended.
คลังบทความน่ารู้ของบล็อก
-
►
2024
(1)
- ► 09/15 - 09/22 (1)
-
►
2021
(1)
- ► 11/21 - 11/28 (1)
-
▼
2010
(54)
- ► 08/08 - 08/15 (1)
- ► 06/20 - 06/27 (3)
- ► 05/23 - 05/30 (1)
- ► 03/07 - 03/14 (2)
- ► 02/28 - 03/07 (1)
- ► 02/21 - 02/28 (1)
- ► 02/14 - 02/21 (1)
- ► 02/07 - 02/14 (4)
- ► 01/31 - 02/07 (13)
-
▼
01/24 - 01/31
(13)
- เคล็ดลับบริหารจิ๋มให้ฟิตเปรี๊ยะ
- ขนาดอวัยวะเพศชายสำคัญอย่างไร
- ไปไม่ถึงดวงดาวเพราะล่มปากอ่าว
- WOMEN ON TOP
- มาศึกษาท่าร่วมเพศกัน
- เคล็ดลับ...ไปสุ่ดวงดาวของสาวๆ (คลิตอลิส,จีสปอท และ...
- วิธีกระตุ้นจุดกระสัน จี สปอท เพื่อความสูงสุดยอดใ...
- จีสปอท
- สูตรความสุขด้วยตัวเอง (ผู้ชาย)
- สูตรความสุขด้วยตัวเอง (ผู้หญิง)
- ความเสียวสุดยอดทางเพศ
- ระบบสืบพันธุ์
- ช่องคลอด
- ► 01/17 - 01/24 (8)
- ► 01/10 - 01/17 (2)
- ► 01/03 - 01/10 (4)
-
►
2009
(11)
- ► 12/27 - 01/03 (6)
- ► 12/20 - 12/27 (4)
- ► 11/22 - 11/29 (1)