xanga tracking
herbs-in-manman
manman clip
herbs-in-manman  flowermanman
manman.flixya
 hellomanman
 happy-topay
 invite-buying
 men-women-apparel

sex shop
diarylovemanman
 homemanman
 menmen-love
alovemanman
news-the-world
 foodmanman
 ghost-in-manman
 U.F.O.manman
herbs-in-manman
 manman

Friends talk contact man love
manes2006@ovi.com

Recommended.

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553

เรื่องบนเตียงของ หนุ่มอวบ-สาวอั๋น




เรื่องบนเตียงของ หนุ่มอวบ-สาวอั๋น



เนื้อหาเรื่องนี้เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

ไม่ค่อยจะได้พูดถึงหนุ่มอวบสาวอั๋นกันสักเท่าไหร่ ฉบับนี้นึกครึ้มอกครึ้มใจและเห็นใจหนุ่มสาวเจ้าเนื้อทั้งหลายที่มัวแต่กลุ้มอกกลุ้มใจไปกับเรื่องบนเตียง
ความรักและความต้องการของคนอ้วนที่เราเองก็อาจจะสงสัยและครุ่นคิดเหมือนกันว่า เค้าจะมีความสุขในเรื่องของการมีเซ็กซ์ได้อย่างไร อะไรคือสิ่งที่คนอ้วนกลัวในเรื่องเซ็กซ์ และถ้าอยากจะมีเซ็กซ์จะต้องใช้กระบวนท่าอะไร อืมม์ อันนี้เรามีคำตอบให้ฟังกัน


กระบวนท่าเมคเลิฟของหนุ่ม-สาว เจ้าเนื้อ
กระบวนท่าเมคเลิฟสำหรับหนุ่มสาวเจ้าเนื้อคนอ้วนส่วนใหญ่เป็นคนอารมณ์ดี เวลาที่อยู่ในช่วงของการเมคเลิฟของพวกเขาจะยิ่งทำให้อารมณ์ดีเพิ่มขึ้น เพียงแต่ท่าทางแห่งความรักความต้องการคงจะต้องปรับเปลี่ยนบ้าง เพราะมีกำแพงคือไขมันและหน้าท้องที่หนาปึ้กมาขวางกั้น กระบวนท่าในการเมคเลิฟของหนุ่มสาวเจ้าเนื้อที่เกิดความรู้สึกอึดอัด อยากเมคเลิฟด้วยท่าทางแห่งความสุขกะเขาบ้าง

หากคุณมีความสุขในกระบวนท่าที่ไม่อึดอัดแล้ว เพียงแค่นี้คุณก็สามารถไปถึงดวงดาวได้อย่างคนผอมเค้าเช่นกัน กระบวนท่าในการเมคเลิฟของหนุ่มสาวเจ้าเนื้อที่อยากเมคเลิฟด้วยท่าทางแห่งความสุขกะเข าบ้างมีท่าอะไรบ้าง เอ้า ! ลองดู

1. ลองเริ่มจากท่าที่ใช้ขอบของเตียง และหมอนให้เป็นประโยชน์
ท่วงท่าลีลาแห่งรักนี้ ต้องเป็นท่วงท่าชันเข่าให้ฝ่ายหญิงนอนหมิ่นๆ ขอบเตียง ใช้หมอนอันนุ่มรองก้นอันอวบอั๋นของเธอ ฝ่ายชายจะต้องสุภาพ ค่อยๆ ผ่านของรักของหวงเข้าไปในส่วนสงวนของเธอ ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าไปได้ลึกซึ้งจนถึงก้นบึ้ง ก่อนที่จะปล่อยน้ำรักออกมา

2. ลองปรับเปลี่ยนให้ฝ่ายหญิงนั่งเก้าอี้ ครึ่งนั่งครึ่งนอนบ้าง
แล้วจึงบรรเลงเพลงรักตามอารมณ์และลีลาของคุณใครจะเถียงว่าคนอ้วนไม่มีหัวใจ ความอ้วนจึงไม่เป็นอุปสรรคของความรักแต่อย่างใด

ยกตัวอย่างมาแค่สองวิธีพอ เพราะจริงๆแล้วยังมีอีกหลายกระบวนท่าที่คนอ้วนก็สามารถทำได้เหมือนคนปกตินั่นล่ะ อยู่ที่ว่าแต่ละคนไม่ว่าอ้วนหรือผอมจะมีกลเด็ดเม็ดพลายอย่างไรมาสานใยรักเท่านั้นเอง


5 อันดับ สิ่งที่หนุ่มอวบ-สาวอั๋น กลัว...
1. กลัวน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น...
อีตอนแรกก็พอจะรับไหวอยู่หรอก เพราะตอนจีบกันก็ดูอะไรกุ๊กกิ๊ก น่ารักไปหมด แต่พอคบกันนานเข้า ต้องมีสิน่าที่เปลี่ยนสรรพนามแทน ถ้าเรียกให้น่ารักหน่อยก็เป็น น้องหมู หรือพี่อ้วนจัง นี่ล่ะ ก็เพราะตอนที่คบกันใหม่ๆ กินอะไรก็อร่อยไปหมด พอน้ำหนักเพิ่มขึ้นทีนี้ก็เลยตาสว่างขึ้นมาทันทีทันใดเชียวล่ะ...



2. กลัวการออกเดท....
ที่ต้องกลัวก็เพราะว่า การออกเดทน่ะ จะทำให้คุณตกเป็นเป้าสายตาคนอื่น หาคุณเดทกับคนรู้ใจหุ่นเพรียวลม ก็จะทำให้คนอื่นมองว่า เฮ้ย ! ไม่เหมาะกันเล้ย หรือหากคุณและคนรู้ใจเจ้าเนื้อทั้งคู่ เวลาเข้าไปร้านอาหารก็จะทำให้คนอื่นมองว่า โอ้ว ! หนุ่มสาวร่างยักษ์มาแล้วพวกเราถอย... เฮ้อ ตัวหย่ายก็สร้างจุดเด่นอย่างนี้ล่ะ ทำใจ...ทำใจ


 

3. กลัวการมีเซ็กซ์..
หนุ่มสาวเจ้าเนื้อกลัวการมีเซ็กซ์มากที่สุด เพราะเมื่อความรักสุกงอม ก็อยากจะมีเซ็กซ์เหมือนคนหุ่นปกติดูบ้าง ถ้าลองหลับตานึกภาพดูหลายคนอาจจะนึกขำ แต่อย่าลืมว่าคนอ้วนก็มีจิตใจและความต้องการเหมือนอย่างเราๆนี่ล่ะ เพียงแต่อาจจะไม่ถนัดนักในเรื่องของการเล่นกระบวนท่าเท่านั้นเอง การจูบและการกอดจึงกลายเป็นสิ่งที่หนุ่มอ้วนสาวอั๋นกระทำบ่อยกว่าการเมคเลิฟซะอีก



4. กลัวเตียงหัก...
สำหรับคนที่เก่งในเรื่องเซ็กซ์อันนี้ไม่ต้องพูดถึง เพราะว่าเรื่องกระบวนท่าที่ช่ำชองไม่เป็นอุปสรรค เพราะสามารถทั้งพลิกทั้งแพลงมาใช้กับคู่ของคุณได้ หากแต่กลัวอย่างเดียว เรื่อง เตียงหัก หมายถึงเตียงหักจริงๆนะคุณ อันนี้จะต้องตรวจเช็คสภาพของเตียงที่คุณต้องการจะมีเซ็กซ์ซะก่อน เพื่อให้แน่ใจในความแข็งแรงและทนทานของเตียง... คำเตือน! ก่อนที่คุณจะมีเซ็กซ์ควรตรวจสภาพเตียงทุกครั้ง ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือนนะจ๊ะ...



5. กลัวถูกทิ้ง...
คนอ้วนมักจะเลือกคบกับคนที่มีหุ่นค่อนข้างดี เหมือนกับเป็นการชดเชยหุ่นตัวเองนั่นล่ะ ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ความชอบของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ว่าจะเป็นอย่างนี้เสมอไป สาวหุ่นดีบางคนก็อยากจะมีชายหนุ่มร่างใหญ่ไว้คอยปกป้องจะได้รู้สึกอบอุ่นใจเวลาอยู่ใ กล้เขานั่นเอง แต่เมื่อคบไปนานๆ น้ำต้มผักที่ว่าหวานก็กลายเป็นขมในบัดดล เมื่อเจอหนุ่มกิ๊กเร้าใจกว่า...สาวเจ้าจึงรีบผละจากหนุ่มเจ้าเนื้อทันที...เป๊าะ.... โครม ! เสียงอกหักของหนุ่มร่างบึ้กนั่นเอง


ป.ล. เรื่องแบบนี้อยู่ที่ความสามารถของแต่ละคน

กามสูตรและภาพ

กามสูตรและภาพ
กามสูตร (ภาษาสันสกฤต : कामसूत्र, กามสูตฺร) เป็นคัมภีร์อินเดียสมัยโบราณ ว่าด้วยเพศศึกษา หรือพฤติกรรมทางเพศของมนุษย์ ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าเป็นผลงานมาตรฐานว่าด้วยความรัก ในวรรณคดีสันสกฤต เขียนโดยวาตสยายน (วาต-สยา-ยะ-นะ) โดยมีชื่อเต็มว่า "วาตฺสฺยายน กาม สูตฺร" (คัมภีร์ว่าด้วยความรักของวาตสยายน) นอกจากนี้ยังมีความสำคัญในด้านสังคมวิทยาและแพทยศาสตร์ ด้วย

เชื่อกันว่า วาตสยายน ผู้เขียนคัมภีร์เล่มนี้ มีชีวิตอยู่ในราว คริสต์ศตวรรษ ที่ 1 - 6 อาจจะอยู่ในสมัยคุปตะ ของอินเดีย แต่ไม่สามารถระบุเวลาได้แน่ชัด

คัมภีร์กามสูตรประกอบด้วยโศลก 1,250 บท แบ่งเป็น 7 อธิกรณ์ (ภาค), 14 ปกรณ์ (ตอน) และ 36 อธยายะ (บท) ดังนี้

1.สาธารณะ (Sadharna) (5 บท) ว่าด้วยความรัก การจำแนกประเภทของสตรี
2.สัมปรโยคิกะ (Samparayogika) (10 บท) ว่าด้วยการจูบ การเล้าโลม การแสดงท่าร่วมรัก
3.กันยาสัมปรยุกตกะ (Kanya Samprayuktaka) (5 บท) ว่าด้วยการเลือกหาภรรยา การเกี้ยวพาราสี และการแต่งงาน
4.ภรรยาธิการิกะ (Bharyadhikarika) (2 บท) ว่าด้วยการประพฤติตัวอย่างเหมาะสมของภรรยา
5.ปารทาริก (Paradika) (6 บท) ว่าด้วยการแอบมีชู้กับภรรยาคนอื่น หลักศีลธรรม
6.ไวศิกะ (Vaisika) (6 บท) ว่าด้วยหญิงคณิกา โสเภณี
7.เอาปนิษทิกะ (Aupamishadika) (2 บท) ว่าด้วยการสร้างเสน่ห์ให้ตนเอง
กามสูตรกล่าวถึงท่าทางการร่วมเพศ64 ท่า โดยเป็นการรวมวิธีร่วมรัก 8 วิธี และท่าเฉพาะของแต่ละวิธี 8 ท่า รวมทั้งหมด 64 ท่า ในคัมภีร์นี้เรียกว่า ศิลปะทั้ง 64 วาตสยายนเชื่อว่าเรื่องเพศนั้นไม่ใช่สิ่งผิด แต่การกระทำที่ผิดศีลธรรมเท่านั้นที่เป็นบาป

คัมภีร์กามสูตร เป็นคำสอนสำหรับหญิงชายที่ให้ความรู้ด้านเพศศึกษาอย่างครบถ้วน และละเอียด อย่างน่าพิศวง นอกจากนี้ยังกล่าวถึงศีลธรรมและการปฏิบัติทางเพศในอินเดียสมัยนั้นด้วย

คัมภีร์เรื่องนี้ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในภาษาอังกฤษที่เซอร์ ริชาร์ด ฟรานซิส เบอร์ตัน เมื่อ ค.ศ.1883
ภาพประกอบเพื่อการเรียนรู้






























จบการนำเสนอ

15 ข้อผิดพลาดของผู้ชาย ขณะมีSex


ผู้ชายจำนวนมหาศาลเป็นห่วง " ลีลาการแสดงออก " ของตัวเองขณะมีเซ็กซ์ นักจิตวิทยาทางเพศ เชื่อว่า ไม่มีผู้ชายคนไหนเป็นนักรักที่เลวร้ายเกินไป ยกเว้นคนที่จิตใจหยาบกระด้างจนกู่ไม่กลับจริงๆ แต่ถึงอย่างไร ก็ยินดียกตัวอย่าง 15 พฤติกรรมที่ผู้ชายสามารถนำไปปรับปรุงเรทติ้งของตัวเอง (ในหมู่สาวๆ)
1. ไร้ซึ่งชิ้นส่วนป้องกัน

ผู้หญิงบอกว่า ไม่มีอะไรน่าผิดหวังมากไปกว่า เมื่อถึงเวลาจะเข้าด้ายเข้าเข็ม ปรากฏว่าผู้ชายไม่ได้เตรียมอุปกรณ์ป้องกันติดตัวมา เติมความ " สมาร์ท " ให้ตัวเอง ด้วยการ....อย่าออกจากบ้านโดยปราศจาก " ถุงยางอนามัย "

2. ดุดันเกินไป

โดยธรรมชาติ ผู้หญิงทุกคนตั้งหน้าไขว่คว้าหาความโรแมนติก ถึงเล็กน้อยเธอก็อยากได้ ประสาทรับความรู้สึกทางเพศทั้งหมดของสตรี ไม่ได้อยู่ที่อวัยวะที่มีรูปทรงเหมือนดอกเห็ด (Clitoris) "สมอง" ต่างหาก คือ อวัยวะที่ใหญ่ที่สุดที่ทำให้เกิดความรู้สึกอีโรติก ทราบเช่นนี้แล้ว ลองคิดดู ว่าควรทำอะไรบ้างให้สมองเธอสั่งการ ไม่ใช่เอะอะก็ตรงไปคุกคามเจ้าดอกเห็ดนั่น

3. เป็นฝ่ายรับเกินไป

ผู้หญิง (ส่วนใหญ่) ได้รับการอบรมสั่งสอนให้สงบเสงี่ยม เรียบร้อย นิ่งไว้ก่อนแม่สอนไว้ เป็นฝ่ายรอให้ผู้ชายเริ่มก่อน เป็นฝ่ายรอรับความรักครั้งแรกจากผู้ชาย ดังนั้น ถ้าคุณเป็นผู้ชายประเภท "รอเธอให้เอ่ยปากก่อน" ส่วนเธอก็รอให้คุณเป็นฝ่ายเริ่ม แล้วจะมีความสุขกันได้อย่างไรล่ะทีนี้ แต่ถ้าบังเอิญผู้หญิงคนที่คบหา เป็นประเภท ดิฉันเริ่มก่อนได้ค่ะ " ก็แล้วกันไป

4. กลัวบุบสลาย

ผู้หญิงคือ สิ่งมีชีวิตที่นุ่มนวล น่าทะนุถนอม แต่ก็ไม่บอบบางเกินกว่าที่จะแตกหักได้ง่ายๆ แม่เจ้าประคุณยินดีรับมือกับการสัมผัส การโอบกอด การกอดรัดฟัดเหวี่ยง แต่ไม่ถึงกับจะต้องเฆี่ยนตี (ยกเว้นสาวที่มีรสนิยมเฉพาะด้าน) เพราะฉะนั้น อย่ากลัวที่จะฟอนเฟ้น ทั่วเรือนร่างยิ่งดี ขณะที่คุณร่วมรักกับเธอ

5. อย่าให้เหมือนคลิกเมาส์

" ช่องทางลี้ลับ " ใต้ระดับเอวลงไป คือ บริเวณที่ละเอียดอ่อน และไวต่อความรู้สึกอย่างยิ่ง การสัมผัสที่รุนแรงและดุดันเกินไปกับบริเวณนี้ จะทำให้เธอรู้สึก " เจ็บ " มากกว่า นี่เป็นความเข้าใจผิดอย่างแรงของหนุ่มๆ ที่ลอกเลียนแบบจากวิดีโอ หรือวีซีดีต้องห้าม สุภาพบุรุษท่านใดมีนิ้วมือหยาบกระด้าง ไว้เล็บยาวจนน่ากลัว หรือไม่ดูแลเล็บให้เรียบร้อย มีเล็บที่บิ่นๆ หักๆ โปรดเก็บนิ้วแบบนี้ของคุณ ไว้ระบายความขัดข้องใจกับเกมคอมพิวเตอร์ส่วนตัวจะดีกว่า อาณาบริเวณนี้ของคุณสุภาพสตรี ให้การตอบสนองไม่ดีกับการเล่นที่รุนแรง

6. มือที่หายไป

ถึงคุณจะไม่ได้เรียนมาทางการบีบนวด แต่ก็ไม่จำเป็นจะต้องเก็บไม้เก็บมือไว้กับตัวเองจนไม่กล้ายื่นออกไปสัมผัส ตัวเธอ ผู้หญิงจะรู้สึก ว่าเธอเป็นที่รักของคุณยิ่งขึ้น เมื่อได้รับการสัมผัส แต่ถ้าคุณไม่แตะต้องส่วนอื่นๆ ของร่างกายเธอเลยตลอดเวลาที่มีอะไรกัน แบบนี้เธอจะน้อยใจ และมักคิดเอาเอง ว่าคุณอยากแค่นอนกับเธอ หาได้มีใจรักเธอเท่าใดนักไม่อย่าปล่อยให้มือของคุณหายไป

7. อย่าลงไปครึ่งทาง

เมื่อใดก็ตามที่คุณแสดงเหมือนจะบ่ายหน้าต่ำลงไปเรื่อยๆ ก็จงอย่าชะงักอยู่แค่สะดือ กรุณาใส่เกียร์เดินหน้าต่อไป และอย่าทำเฉไฉผ่านเลยอาณาบริเวณนั้นไป ถ้ายังไม่แน่ใจว่าพร้อมที่จะทำหรือไม่ ก็อย่าแสดงอากัปกิริยาให้เธอรู้สึกประหนึ่งว่า คุณจะเดินหน้าต่อไปข้างล่างนั่น

8. ถ้ายังทำไม่ถูก อย่าทำ

เพราะลักษณะของอวัยวะที่ใช้ทำหน้าที่สืบทอดเผ่าพันธุ์ระหว่างชายและหญิง นั้นแตกต่างกัน หากคิดจะสำรวจ หรือปรารถนาดีจะสร้างความพึงใจให้เธอด้วยเรียวนิ้วของคุณเอง ถ้าไม่มั่นใจว่าจะทำอะไรตรงไหน เพราะความไม่คุ้นเคยล่ะก็ แปลว่าไม่รู้จะทำยังไงนั่นเอง) ผู้หญิงขอร้องว่าไม่ต้องก็ได้ เก็บนิ้วมือไว้ พรมลงบนส่วนอื่นของเรือนร่างเธอ จะเป็นพระคุณยิ่ง

9. อยู่หรือตาย

ผู้หญิงบอกว่า ไม่มีอะไรเลวร้ายอย่างแสนสาหัส มากไปกว่า นอน กับผู้ชายโดยไม่ทราบว่าเขามีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว เซ็กซ์ไม่ใช่งานบ้านที่น่าเบื่อ คุณสุภาพบุรุษโปรดยิ้ม หัวเราะ และ หายใจ ให้เธอได้ยินบ้างก็ได้

10. ตบก้น ก็เป็นเรื่อง

ถ้ายังไม่รู้จักกันลึกซึ้ง ถ้ายังไม่เคยพูดจาตกลงกัน ถ้าไม่รู้ใจกันมาก่อน อย่า ตบก้นเธอส่งเดชขณะมีอะไรกัน ผู้หญิงหลายคนไม่ชอบให้ผู้ชายมากระทำแบบนี้ ดีไม่ดี เธอขอเอาคืนด้วยนะ

11. พ่อใคร ?

ถึงแม้ว่าผู้หญิงจำนวนมาก ไม่ประสา กับการเล่นสนุก โดยการสวมบทบาทเป็นคนอื่นขณะร่วมรัก แต่ผู้หญิงแทบจะทั้งโลก ไม่ต้องการ แสดงบทรักกับ พ่อ ของตัวเอง เพราะฉะนั้น ถ้าจะหลุดคำพูดอะไรออกไป จงระวังไว้ให้มาก ! แทนที่จะช่วยสร้างบรรยากาศให้ตื่นเต้นเร้าใจยิ่งขึ้น อาจโกรธกันไปเลยก็ได้

12. เงียบเชียว !

สำหรับผู้หญิง การไม่รู้ว่าผู้ชายของเธอถึงจุดสุขสุดยอดหรือไม่ เป็นเรื่องที่เล่นงานอีโก้ของเธออย่างจัง เธอต้องการรู้ ว่าเธอทำให้คนรักพึงพอใจได้หรือไม่ ดังนั้น คุณสุภาพบุรุษอย่าเก็บงำความรู้สึก ทำให้เธอรู้ว่าคุณมีความสุขเพียงใด เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้เป็นความลับ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ โอเวอร์แอ็คได้นิดหน่อย แต่อย่ามากจนเกินเหตุ เดี๋ยวเธอนึกว่าคุณจะหัวใจวาย

13. คำถามต้องห้าม !

เป็นคำถามที่ผู้หญิงเบื่อที่สุด ! คุณถึงหรือยัง ? ผู้หญิงบอกว่า ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมผู้ชายชอบถามอยู่เรื่อยกับเรื่องไคลแมกซ์ของผู้หญิง คุณจะรู้เอง ฉันสัญญา หญิงส่วนใหญ่ฝากบอกมาอย่างนี้

14. ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ !

ผู้หญิงบอกว่า พวกเธอตระหนักเป็นอย่างดี ผู้ชายก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ถ้าไม่สามารถทำให้อวัยวะชิ้นนั้น ตั้งชัน ขึ้นได้ ไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากขอโทษ พวกเธอบอกว่า ได้รับการศึกษามากพอที่จะรู้ว่า ต้นเหตุไม่ได้มาจากพวกเธอ นอกเสียจากว่า คุณมัวแต่สูญพลังงานไปกับการฝึกทักษะการใช้มือของตัวเอง นั่นสิเป็นเรื่องน่าโมโห

15. ของเล่นประหลาดใจ

อย่าทำเป็นตื่นตระหนกจนเสียบุคลิก ถ้าเธอหยิบอุปกรณ์ประกอบการแสดงบทรักที่เธอชอบมากออกมา ไม่มีอะไรทำลายความเป็นลูกผู้ชายของคุณหรอก อย่าหวั่นไหว ผจญภัยร่วมกับเธอไปเลย

วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2553

ขลิบเขาทำกันอย่างไร(..2)


 ขลิบ เขาขลิบกันอย่างไร

นายแพทย์รุ่งโรจน์ ตรีนิติ



ขลิบ หมายถึง การขลิบหนังหุ้มอวัยวะเพศของชาย การขลิบมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สามารถรูดหนังหุ้มอวัยวะเพศให้เปิด เพื่อทำความสะอาดได้ เพราะจากสถิติพบว่า คนที่ไม่สามารถรูดหนังเปิดได้ มีอุบัติการณ์เป็นมะเร็งของมังกรสูงกว่าคนทั่วไป


การขลิบยังรวมทั้งคนที่มีหนังหุ้มอวัยวะเพศยาวมากๆ แม้จะสามารถรูดเปิดได้ แต่พอปล่อยก็จะกลับมาปิดเหมือนเดิม ก็จะยากแก่การดูแลรักษา หมักหมม บางครั้งราขึ้น ทำให้เป็นเม็ดผื่นหรือแตกเป็นแผลเรื้อรัง ยามแข็งตัวก็เจ็บ ร่วมเพศก็เจ็บ ไม่เป็นสุข อย่างนี้ก็ควรขลิบด้วย


ทำที่ไหน : โรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชน โพลีคลินิก คลินิก


หมอแผนกอะไร : ศัลยกรรมขลิบหนังอวัยวะเพศ เป็นศัลยกรรมที่หมอทุกคนทำได้ หมอทั่วไปหรือหมอศัลยกรรมก็ได้ ไปถึงแล้วแจ้งความประสงค์ว่า 'จะมาขลิบหนังหุ้ม' หรือ 'มาทำเซอร์คำ'


ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง : ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องบวช(ไม่ต้องโกนขน)


ไปเลยได้ไหม :ควรโทรศัพท์สอบถามดูก่อน บางแห่งไม่ได้ให้บริการทุกวัน


ราคา เท่าไหร่ : ถ้าเป็นของรัฐบาล รวมเบ็ดเสร็จไม่น่าเกิน 2,000 บาท แต่ถ้าเป็นของเอกชน ราคาไม่ตายตัวแต่ก็จะอยู่ระหว่าง 5,000 - 10,000 บาท


ต้องนอนโรงพยาบาลไหม : ปกติทำแล้วกลับได้เลย เพราะไม่ต้องดมยาสลบ วันรุ่งขึ้นสามารถกลับไปทำงานต่อได้เลย ไม่ต้องลางาน


เจ็บไหม : ก่อนทำหมอจะฉีดยาชาให้ ฉีดตรงหนังหุ้มเลย จะเจ็บเหมือนฉีดยาทั่วไป หลังจากนั้นก็จะชา เหมือนถอนฟัน หลังทำกลับบ้านแล้ว ก็เจ็บบ้างเหมือนถูกมีดบาด แต่ปกติหมอจะให้ยาแก้ปวดมาพร้อมอยู่แล้ว


เมื่อไหร่แผลหาย : ปกติก็ 7 วัน ไม่ต้องตัดไหม แผลจะติดดี


ใช้งานได้เมื่อไหร่ : ก็ควรรอเวลาสักหน่อยก็ดีครับ สองสามสัปดาห์ขึ้นไป


มีโรคแทรกไหม : ปกติ 99% ไม่มีปัญหาอะไร ยกเว้นบางราย อาจเกิดอาการอักเสบ หรือมีเลือดออก บวมเจ็บมาก ซึ่งมักจะเป็นในวันสองวันแรก ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องกลับไปหาหมอเดิม


มีแบบพิสดารไหม : มีครับ บางคนอยากให้เป็นแฉก แบบรถเบนซ์ แต่ผมว่าเอาแบบเรียบธรรมดาก็พอครับ เพราะมันเป็นของลับที่เราเก็บไว้มิดชิด ไม่ได้เที่ยวเอาไปโชว์ใคร..เนาะ


แล้วเขาขลิบกันอย่างไร :







รูปที่ 1. ฉีดยาชาก่อนทำ จะฉีดตามรูปก็ได้ แต่ผมจะใช้วิธีบล็อกเส้นประสาท ตรงโคนแทน เพราะถ้าฉีดยาชาตรงนั้นเลย หนังจะบวม กะระยะลำบาก เวลาหาย หนังจะชิดติดกันไม่ดี ไม่สวย แต่คุณไม่ต้องไปแนะนำหมอนะครับ หมอแต่ละคน ย่อมมีความถนัดไม่เหมือนกัน







รูปที่ 2. เริ่มกรีดหนัง ให้แยกจากกัน จะใช้มีดหรือกรรไกรก็ได้







รูปที่ 3. ถลกหนังให้รูดขึ้น ใช้มีดกรีดเบาๆ ให้เป็นรอย(รอยประ) ให้เหลือหนังสัก 1-2 เซ็นติเมตร แล้วแต่ขนาดของหัวเต่า







รูปที่ 4. ตัดหนังหุ้มออก ตามแนวที่วัดไว้แล้ว ในรูปตัดออกไปครึ่งหนึ่งแล้ว ตรงรอยลูกศร คือ หนังที่จะจับมาเย็บติดกัน ด้วยไหมละลาย







รูปที่ 5. เมื่อทำเสร็จใหม่ๆ หัวเต่าอันใหม่ของคุณก็จะเป็นแบบนี้
ไหมที่เย็บยังอยู่ แต่ละค่อยๆละลายไปเอง


หมายเหตุ รูปทั้งหมดนี้ได้มาจากหนังสือคู่มือผ่าตัดเล็ก ของนายแพทย์เกษียร ภังคานนท์

วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2553

ตัวอย่างภาพยนตร์"Porn" (non-nude) ปี1950

"Porn" (non-nude) or "the Weird Lovemakers" by Donald O'Finn


ภาพยนตร์ลามก

ภาพยนตร์ลามก คือ ภาพยนตร์ที่มีเจตนาปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศให้แก่ผู้ชม ซึ่งมักจะแสดงภาพโป๊เปลือยหรือการร่วมเพศ โดยสามารถแบ่งกว้างสองอย่างคือ ซอฟต์คอร์ กล่าวถึงภาพยนตร์ที่ไม่มีการร่วมเพศ และฮาร์ดคอร์ กล่าวถึงภาพยนตร์ที่มีการร่วมเพศ ชื่อของภาพยนตร์ลามกมีหลากหลายเช่นในภาษาปากเรียก หนังโป๊ หรือเรียก ภาพยนตร์เอวี (AV - adult video) หรือภาพยนตร์ผู้ใหญ่
ภาพยนตร์ลามกในช่วงแรกมักจะอยู่ในรูปแบบของวิดีโอที่เปิดชมกันในบ้าน และเฉพาะที่เช่นโรงภาพยนตร์ที่ฉายโดยเฉพาะ และต่อมาได้มีการเปลี่ยนรูปแบบลงในดีวีดีและบลูเรย์ รวมถึงเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต ภาพยนตร์ที่มีการเผยให้เห็นอวัยวะเพศหรือแสดงการร่วมเพศนั้น แม้ว่าจะผิดกฎหมายในประเทศไทย และยังไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม แต่ยังมีการลักลอบผลิตและจำหน่ายหรือแจกจ่ายอยู่


ร้านเช่าภาพยนตร์ลามกในประเทศญี่ปุ่น


คำศัพท์
หนังโป๊ในภาษาอังกฤษคือ "pornographic film" ซึ่งคำว่า "pornography" ในภาษาอังกฤษ มาจากภาษากรีกคำว่า "porni" (โสเภณี) บวกกับคำว่า "graphein" (เขียน) รวมแล้วหมายถึง การเขียนเกี่ยวกับเรื่องราวของโสเภณี จะเห็นได้ว่าแรกเริ่มนั้น ศัพท์คำนี้ก็ได้ถูกนิยามขึ้นมาให้หมายถึงผลงานศิลปะหรือวรรณกรรมใดๆ ก็ตาม ที่ได้วาดหรือบรรยายถึงชีวิตของบรรดาโสเภณีมานับตั้งแต่ต้น

ส่วนคำว่า "โป๊" มาจากภาษาจีนแต้จิ๋ว "โป้ว" หมายถึง ปะชุนเสื้อผ้า, ซ่อมแซม, บำรุงร่างกาย สำหรับพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายไว้ว่า "โป๊" เป็นภาษาพูดที่หมายถึง เปลือยหรือค่อนข้างเปลือย, มีเจตนาเปิดเผยอวัยวะบางส่วนที่ควรปกปิด เดิมทีหนังโป๊ คือหนังคั่นรายการที่มีลักษณะวาบหวาม

หนังโป๊ เรียกกันหลายๆ แบบ ตามระดับว่าเห็นสัดส่วนของผู้แสดงเพียงใด ถ้าเห็นเล็กน้อย หรือมีการเซนเซอร์มาก เรียกว่าหนังอาร์ ถ้าเห็นมากๆ มีการเซ็นเซอร์น้อย หรือเห็นทั้งหมด เรียกกันทั่วไปว่าหนังเอกซ์ เนื้อหาจะเป็นการแสดงท่าทางการร่วมเพศ ซึ่งหลายประเทศที่อนุญาตให้ผู้ชมที่อายุมากกว่าสิบแปดเท่านั้นจะดูได้ (ขณะที่ภาพยนตร์เรตอาร์ในสหรัฐอเมริกาหมายความรวมไปถึงภาพยนตร์ที่มีความรุนแรง มีการซื้อขายยาเสพย์ติด และ/หรือมีภาพเปลือยเป็นส่วนประกอบ เช่น คิลบิล หรือ เดอะเมทริกซ์)

หนังโป๊ในโรงภาพยนตร์
หนังโป๊ เรียกกันหลายๆ แบบ ตามระดับว่าเห็นสัดส่วนของผู้แสดงเพียงใด ถ้าเห็นเล็กน้อย หรือมีการเซนเซอร์มาก เรียกว่าหนังอาร์ ถ้าเห็นมากๆ มีการเซ็นเซอร์น้อย หรือเห็นทั้งหมด เรียกกันทั่วไปว่าหนังเอกซ์ เนื้อหาจะเป็นการแสดงท่าทางการร่วมเพศ ซึ่งหลายประเทศที่อนุญาตให้ผู้ชมที่อายุมากกว่าสิบแปดเท่านั้นจะดูได้ (ขณะที่ภาพยนตร์เรตอาร์ในสหรัฐอเมริกาหมายความรวมไปถึงภาพยนตร์ที่มีความรุนแรง มีการซื้อขายยาเสพย์ติด และ/หรือมีภาพเปลือยเป็นส่วนประกอบ เช่น คิลบิล หรือ เดอะเมทริกซ์)
ในยุคหนึ่งมีหลายโรงภาพยนตร์ที่ไม่สามารถทำรายได้เท่าที่ควรเนื่องจากมีโรงภาพยนตร์ใหม่ เปิดขึ้นมาตามห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์หลายแห่งจึงหันมาฉายหนังโป๊ โดยเป็นที่รู้กันในหมู่คนดูว่า หนังควบ หน้าโรงจะติดประกาศว่า ไทยควบญี่ปุ่น หรือ จีนควบญี่ปุ่น แต่ในโรงภาพยนตร์จะจัดฉายหนังโป๊ ทั้งนี้ ในโรงภาพยนตร์บางแห่งยังให้มีการขายบริการทางเพศภายในโรงภาพยนตร์ควบคู่ไปด้วย


ในส่วนทางเข้าของร้านเช่า มักจะมีป้ายเตือนไม่ให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้า


หนังโป๊ในญี่ปุ่น
ภาพยนตร์สีชมพู (ญี่ปุ่น: ピンク映画 Pinku eiga ?) เป็นรูปแบบหนึ่งของหนังโป๊ซอฟต์คอร์ของญี่ปุ่นในช่วงแรก โดยมีลักษณะที่โชว์เฉพาะหน้าอกและก้น โดยจะไม่แสดงส่วนอวัยวะเพศและขนรอบอวัยวะเพศ โดยภาพยนตร์ที่ออกมาจะเป็นลักษณะของภาพยนตร์ต้นทุนต่ำ และต่อมาเมื่อวิดีโอได้เริ่มเป็นที่นิยม ภาพยนตร์เอวีได้ครอบครงตลาดแทนที่ภาพยนตร์สีชมพู

ในประเทศญี่ปุ่นจำกัดอายุของผู้ชมไว้ที่ 18 ปีเช่นกันทั้งสื่อที่เป็นภาพยนตร์ ที่ใช้คนแสดง หรืออะนิเมะชั่นที่เป็นการ์ตูน กฎหมายของประเทศญี่ปุ่นได้จำกัดสื่อเอาไว้ว่า หากจะขายหนังโป๊ได้อย่างถูกกฎหมาย จำเป็นที่จะต้องทำการเซ็นเซอร์ หรือทำภาพโมเสกไว้ ดังนั้น หากหนังโป๊ที่ไม่ได้ผ่านการเซ็นเซอร์ที่อวัยวะเพศของผู้แสดง จะถือว่าเป็นหนังใต้ดิน หรือเรียกง่ายๆ ว่าหนังเถื่อนนั่นเอง

นางแบบที่แสดงหนังโป๊ อาจเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า นางเอกเอวี หรือ นางแบบเอวี (เอวี หรือ AV ในที่นี้ย่อมาจาก Adult Video ซึ่งหมายถึงหนังโป๊นั่นเอง)

ในปัจจุบันวีซีดีและดีวีดีเป็นที่นิยมแพร่หลายมากขึ้น ดังนั้นการถ่ายภาพนางแบบสวยๆ น่ารักๆ ในชุดว่ายน้ำ หรือในชุดอื่นๆ ในปัจจุบันนั้น นอกเหนือจากการถ่ายเป็นภาพนิ่งแล้ว ยังนิยมถ่ายในรูปแบบไฟล์วีดีโอ หรือในรูปแบบวีซีดีหรือดีวีดีอีกด้วย ซึ่งนางเอกเอวีบางคนก็มีการถ่ายแบบด้วย แต่จะออกแนวเซ็กซี่มากกว่า ซึ่งในญี่ปุ่นอาจเรียกว่าฟูลนู้ด (อังกฤษ: full nude) มีลักษณะเป็นเรตเอกซ์ เนื่องจากมีการโพสท่าที่เซ็กซี่กว่านางแบบทั่วไป และมีการถอดเสื้อผ้าหรือการเปลือยกาย ต่างจากนางแบบทั่วไป โดยจะสังเกตได้จากปกหน้าและปกหลัง จะวาบหวามมากกว่า และจะมีการระบุไว้บนปกชัดเจน


ขั้นตอนการทำหนังโป๊ในอดีต ในภาพเป็นภาพยนตร์ลามกของออสเตรียในปี พ.ศ. 2449


รายชื่อนักแสดงหนังโป๊ที่มีชื่อเสียง

นักแสดงญี่ปุ่น
ไอ อีจิมะ ,มาเรีย โอซาวะ ,โซระ อะโออิ, อะซึมิ คะวะชิมะ
มาโดกะ โอซาวะ ,บุงโกะ คานาซาวะ, แซลลี โยชิโนะ
มิโฮะ มาเอชิมะ ,นาโอะ อะยูกาวา

นักแสดงอเมริกา
เจนนา เจมสัน เทร่า แพทริก เทรซี ลอร์ดส จิงเจอร์ ลินน์
เจสซี เจน ,จิล เคลลี ,ซาชา เกรย์ ,โทรี เวลส์ ,ลินน์ เลอเมย์

นักแสดงยุโรป
ซิลเวีย เซนต์, คัตซุมิ ,คลารา มอร์แกน
นักแสดงชาย
ร็อคโค ซิเฟรดิล ,ทอม ไบรอน
รอน เจเรมี ,จอห์น โฮล์มส

วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553

การสำเร็จความใคร่

บทความนี้มีเนื้อหาบางส่วนที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก อย่างไรก็ตาม
เยาวชนควรใช้วิจารณญาณในการอ่านและผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ

การสำเร็จความใคร่ คือ การกระตุ้นอวัยวะเพศด้วยตนเองจนถึงจุดสุดยอด รวมถึงการให้ผู้อื่นเป็นฝ่ายกระตุ้นได้ด้วย การสำเร็จความใคร่เป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง รวมถึงการใช้เซ็กส์ทอย และการกระตุ้นโดยไม่ร่วมเพศ นอกจากนี้ ยังอาจใช้เครื่องมือเพื่อให้ช่วยให้รู้สึกว่ากำลังร่วมเพศจริงๆได้ การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองและการสำเร็จความใคร่โดยผู้อื่นจัดว่าเป็นกิจกรรมทางเพศอย่างหนึ่ง นอกเหนือจากการร่วมเพศ สำหรับสัตว์ พบว่ามีการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดซึ่งมักจะอยู่ตามป่าและอยู่ในถ้ำ

วิธีสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง
วิธีสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองของหญิงและชาย จะเกี่ยวข้องกับการลูบไล้หรือคลึงบริเวณอวัยวะเพศ ด้วยนิ้วหรือวัตถุต่างๆเช่น หมอน, สอดนิ้วหรือวัตถุเข้าไปในช่องคลอดหรือรูทวาร, กระตุ้นองคชาตหรือปุ่มกระสันด้วยไวเบรเตอร์ ฯลฯ ขณะที่กำลังสำเร็จความใคร่ ทั้งชายและหญิงอาจจะมีความสุขกับการสัมผัส ถู คลึงที่หัวนม หรือบริเวณที่ไวต่อความรู้สึก ทั้งชายและหญิงอาจใช้สารหล่อลื่นเพื่อช่วยเพิ่มความรู้สึกได้

การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองมักกระทำร่วมกับการดูหนังโป๊หรือการอ่านหนังสือโป๊ นอกจากนี้บางคนยังอาจสวมใส่เสื้อผ้าที่ให้ความรู้สึกพิเศษในขณะสำเร็จความใคร่ เช่น การสวมเสื้อผ้าที่รัดรูป, รัดอวัยวะเพศ หรือการแต่งกายด้วยเสื้อผ้า และ/หรือ ชุดชั้นในของเพศตรงข้าม

ผู้หญิง


Masturbasyong pambabae


การสำเร็จความใคร่ของผู้หญิงการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองของผู้หญิงนั้นมีหลายวิธีและหลากหลายกว่าผู้ชาย แตกต่างกันไปตามปัจจัยและรสนิยมส่วนตัวของแต่ละคน วิธีสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองทำได้โดยการลูบหรือคลึงที่แคมโดยเฉพาะที่ปุ่มกระสัน ด้วยนิ้วกลางหรือนิ้วชี้ ที่เรียกกันว่า ตกเบ็ด หรืออาจใช้หลายๆนิ้วสอดใส่เข้าไปในช่องคลอดและลูบบริเวณผนังด้านหน้าซ้ำๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดจีสปอต (จากงานวิจัยของ มาสเตอรส์ และ จอห์นสัน พบว่า 10% ของผู้หญิงเท่านั้นที่ถึงจุดสุดยอดได้โดยการกระตุ้นที่ช่องคลอดเพียงอย่างเดียว) หรืออาจใช้ไวเบรเตอร์, ดิลโด้ หรือวัตถุอื่นช่วยกระตุ้นช่องคลอดและปุ่มกระสัน ผู้หญิงบางคนจะใช้มือข้างที่ว่างลูบเต้านมหรือหัวนมของตนไปด้วย การกระตุ้นทางรูทวารก็ทำให้มีความสุขได้เช่นกันเพราะมีปลายประสาทอยู่บริเวณนั้นหลายพันเส้น

บางครั้งก็มีการใช้สารหล่อลื่น โดยเฉพาะในส่วนที่ทะลุผ่านเข้าไป แต่ก็ไม่ได้ทำกันทุกคน เพราะผู้หญิงหลายคนก็มีสารหล่อลื่นที่หลั่งมาเองเพียงพออยู่แล้ว บางคนจะหลั่งสารหล่อลื่นออกมาได้มากเมื่ออยู่กับผู้อื่น ดูเหมือนจะเป็นเหตุผลทางด้านสภาพจิตใจ

ผู้หญิงหลายคนสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองในอ่างอาบน้ำ หรือบ่อน้ำร้อน บางครั้งก็ใช้น้ำอุ่นกระตุ้นปุ่มกระสัน ท่าที่ใช้กันส่วนใหญ่คือท่านอนหงาย นอนคว่ำ นั่ง นั่งยองๆ และยืน บางคนอาจนอนคว่ำแล้วคร่อมกับหมอน หรือขอบเตียง หรือม้วนเสื้อผ้าแล้วใช้เนินแคมหรือปุ่มกระสันถูกับมัน บางคนก็ยืนถูกับมุมของเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่เครื่องซักผ้าก็ใช้กระตุ้นปุ่มกระสันผ่านแคมและเสื้อผ้าได้

บางคนถึงจุดสุดยอดได้ด้วยการนั่งไขว่ห้างและเกร็งขา ซึ่งช่วยสร้างแรงกดที่อวัยวะเพศได้ วิธีนี้ใช้ได้ผลในที่สาธารณะที่ไม่มีใครจ้องมอง บางคนอาจใช้การกดเพียงอย่างเดียวที่ปุ่มกระสันโดยไม่ต้องสัมผัสโดยตรง เช่นการกดที่กางเกงในหรือเสื้อผ้า

ผู้ชาย


Masturbasyong panlalaki.



การสำเร็จความใคร่ของผู้ชายวิธีสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองของผู้ชายขึ้นอยู่กับปัจจัยและรสนิยมส่วนตัวของแต่ละคน วิธีการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองของผู้ชายที่ขริบแล้ว กับผู้ชายที่ไม่ได้ขริบอาจจะต่างกัน วิธีหนึ่งอาจใช้ได้ดีกับคนหนึ่ง แต่อาจสร้างความเจ็บปวดให้กับอีกคน

วิธีที่ใช้กันมากสุดคือ เรียกว่า การชักว่าว คือ การกำองคชาตด้วยมือ จากนั้นให้รูดเข้าออก จนกว่าจะถึงจุดสุดยอด ถ้าไม่ได้ขริบ มือที่รูดจะไม่ได้สัมผัสกับหัวองคชาตโดยตรง แต่จะสัมผัสกับหนังหุ้มซึ่งลดแรงเสียดทาน แต่ถ้าขริบแล้ว มือจะสัมผัสกับหัวองคชาตโดยตรง

อีกวิธีหนึ่ง คือ การใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งจับที่กึ่งกลางองคชาต แล้วรูดหนังหุ้มเข้าออก หรืออาจใช้นิ้วจับองคชาตในลักษณะเดียวกับจับขลุ่ย แล้วรูดเข้าออก

วิธีที่มีคนใช้น้อย คือ การนอนคว่ำลงบนที่นุ่ม ๆ เช่นที่นอนหรือหมอน แล้วถูองคชาต หรือกดองคชาตเข้า ๆ ออก ๆ กับที่นอนหรือหมอนนั้น คล้ายการร่วมเพศ จนกว่าจะถึงจุดสุดยอด บางคนอาจใช้ช่องคลอดเทียมหรือวัตถุที่ทำให้มีลักษณะคล้ายช่องคลอด เช่น แตงโมเจาะรู หมอนที่มีรู เนื้อสัตว์ ปลาหมึก ฯลฯ ในการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง โดยอาจสอดองคชาตเข้าไปในรูหรือช่อง ให้เหมือนกับการมีเพศสัมพันธ์ วิธีเหล่านี้อาจทำให้เจ็บหรือถลอกได้ หากถูแรงเกินไป บางคนอาจลูบอัณฑะ หัวนม ก้น หรือส่วนอื่นของร่างกายขณะที่สำเร็จความใคร่ไปด้วย บางคนอาจใช้ไวเบรเตอร์หรืออุปกรณ์ทางเพศอื่น ๆ ที่นิยมใช้ในผู้หญิง นอกจากนี้ยังมีผู้ชายบางคนที่สามารถอมหรือเลียอวัยวะเพศชายของตัวเองได้

ต่อมลูกหมากเป็นอวัยวะที่สร้างน้ำเมือกไปผสมกับน้ำอสุจิ ต่อมลูกหมากไวต่อการสัมผัส ซึ่งกระตุ้นได้โดยตรงด้วยการใช้นิ้วหรือดิลโด้ที่ทาสารหล่อลื่นสอดไปทางรูทวาร จนถึงลำไส้ใหญ่ การกระตุ้นต่อมลูกหมากจากภายนอกด้วยการกดบริเวณฝีเย็บจะให้ความสุขได้

ความถี่ อายุ เพศ
ความถี่ของการสำเร็จความใคร่ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ความสามารถในการยังยั้งอารมณ์ทางเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ (Physiology & Behavior, 2005 Oct 15; Vol. 86 (3), pp. 356-68) และทัศนคติต่อการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองอันเป็นผลจากวัฒนธรรม [1] "นักศึกษาหญิงจำนวน 48 คน ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับทัศนคติต่อความถี่ในการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง นักศึกษาจำนวน 24 คนจากกลุ่มนี้ถูกแยกไปดูหนังเกี่ยวกับการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองของผู้หญิง อีก 1 เดือนต่อมา มีการถามคำถามด้วยคำถามเดิมอีกครั้ง ผลปรากฏว่ากลุ่มที่ไปดูหนังมีการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองบ่อยครั้งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ดู อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่ไปดูหนังกล่าวว่าการดูหนังไม่มีผลต่อทัศนคติในการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองของพวกเธอ"

เชื่อกันว่าคนส่วนใหญ่เริ่มสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาว จากการสำรวจของนิตยสาร NOW เมื่อปี 2004 โดยการสุ่มถามคนจำนวนหลายพันคน [2] พบว่าผู้ชาย 81% เริ่มสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองเมื่ออายุ 10 - 15 ปี ขณะที่ในผู้หญิง มีเพียง 55% ที่เริ่มสำเร็จความใคร่ในวัยเดียวกัน

ผลสำรวจจากนิตยสาร NOW ระบุว่า ความถี่ของการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองจะค่อยๆลดลงหลังอายุ 17 ปีขึ้นไป ผู้ชายส่วนใหญ่ยังสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองวันละครั้งหรือมากกว่าไปจนถึงอายุ 30 ปี และอาจมากกว่านั้น โดยเฉพาะในผู้หญิง ความถี่จะลดลงอย่างมาก และค่อยๆลดลงช้ากว่าผู้ชาย ผู้หญิงอายุ 13 - 17 ปี สำเร็จความใคร่ด้วยตนเองโดยเฉลี่ยเกือบ 1 ครั้งต่อวัน ผู้หญิงที่โตเต็มที่สำเร็จความใคร่ด้วยตนเองประมาณ 8 - 9 ครั้งต่อเดือน เมื่อเทียบกับผู้ชายอายุ 18 - 22 ปี

ความสามารถในการสำเร็จความใคร่จะลดลงตามอายุ มีรายงานว่าวัยรุ่นบางคนสามารถสำเร็จความใคร่ได้ถึงวันละ 6 ครั้งหรือมากกว่า ขณะที่ชายวัยกลางคนแม้เพียงครั้งเดียวต่อวันก็ยากแล้ว การสำรวจนี้ไม่ได้กล่าวถึงการความเจ็บป่วยและประวัติของผู้ตอบ และเป็นข้อมูลที่ได้จากสำรวจผู้ที่อ่านนิตยสารเล่มนี้เท่านั้น ดังนั้นข้อมูลจึงไม่สามารถนำไปเป็นข้อมูลทั่วไปได้

ผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ
การสำเร็จความใคร่ช่วยลดความซึมเศร้าและช่วยสร้างความพึงพอใจในตนเอง (Hurlbert & Whittaker, 1991) การสำเร็จความใคร่ยังมีส่วนในการรักษาสัมพันธภาพ กล่าวคือ ถ้าความต้องการทางเพศของสองฝ่ายไม่เท่าเทียมกัน การสำเร็จความใคร่จึงเป็นทางออกเพื่อรักษาสมดุลระหว่างความสัมพันธ์ของทั้งสอง

วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ทีมวิจัยจากออสเตรเลียนำโดย Graham Giles ได้เผยแพร่ผลการศึกษาเรื่องความถี่ในการสำเร็จความใคร่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก และการหลั่งน้ำอสุจิจากการสำเร็จความใคร่ก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าหลั่งจากการร่วมเพศ เพราะการร่วมเพศอาจทำให้ได้รับโรคติดต่อซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง

จากงานวิจัยของ Stuart Brody พบว่า ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด คนที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์จะมีความดันเลือดต่ำกว่าคนที่เคยมีเพศสัมพันธ์และสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองมาก่อน 1 วันหรือมากกว่า (Brody, 2006)

การสำเร็จความใคร่ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายอาจก่อให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ถ้าน้ำกามสัมผัสกับแคม (อวัยวะเพศ) การสำเร็จความใคร่อาจเป็นการกระจายโรคติดต่อหากมีการสัมผัสของเหลวจากร่างกาย ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสของเหลวจากอีกฝ่ายหากยังไม่แน่ใจว่าเป็นโรคหรือไม่ วัตถุที่ใส่ไปในช่องคลอดหรือรูทวารต้องสะอาดและไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ ไม่ควรนำวัตถุใดๆใส่เข้าไปในรูทวารหรือช่องคลอดทั้งอัน หรือวัตถุที่ร้อนหรือเป็นครีบ มิฉะนั้นแล้ว อาจจะต้องทำการผ่าตัดเพื่อนำวัตถุนั้นออกมา ดิลโด้สมัยใหม่จึงมักถูกออกแบบมาให้มีความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น เช่น ไม่สามารถสอดเข้าไปทั้งอันได้โดยง่าย เป็นต้น

ความเย้ายวนให้สำเร็จความใคร่อาจเป็นส่วนหนึ่งของอาการติดใจในเพศรส ซึ่งมีผลทำให้บุคคลที่มีอาการดังกล่าวเป็นบุคคลที่มีความต้องการทางเพศสูงกว่า และ/หรือ บ่อยครั้งกว่าบุคคลปกติทั่วไป

นอกจากนี้ มีการค้นพบว่า ชายไทย 1 คน ใน 100 คน โดยเฉลี่ย จะมีลักษณะอวัยวะเพศโค้งผิดรูป ซึ่งมีสาเหตุมาจากการสำเร็จความใคร่ที่รุนแรง จนทำให้เกิดการฉีกขาดที่บริเวณปอกของเนื้อเยื่อที่ทำให้อวัยวะเพศขยายตัว แต่ไม่ถึงกับหัก

การร่วมเพศทางทวารหนัก

บทความนี้มีเนื้อหาบางส่วนที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กเยาวชนควรใช้
วิจารณญาณในการอ่าน และผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ

การร่วมเพศทางทวารหนัก หรือ การสมสู่วัจมรรค(อังกฤษ: sodomy) หมายถึงการร่วมประเวณีด้วยการสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าไปทางรูทวารหนัก และยังอาจจะหมายถึงการร่วมเพศที่เกี่ยวข้องกับทวารหนัก เช่นการสอดใส่ช่องทวารหนักด้วยนิ้วมือหรือวัตถุอื่น หรือการใช้ลิ้นเลียช่องทวารหนัก

ในลักษณะของพฤติกรรมทางเพศ การร่วมเพศทางทวารหนักเป็นพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงอันเนื่องมาจากเนื้อเยื่อช่องทวารที่อ่อนแอต่อการเสียดสี และลักษณะที่ไม่เหมาะต่อการร่วมเพศของทวารหนัก ถึงแม้ว่าเยื่อเมือกรูทวารจะให้สารหล่อลื่นได้ แต่สารหล่อลื่นสำหรับการร่วมเพศก็ยังจำเป็นต้องใช้อยู่ดี


ภาพวาดแสดงการร่วมเพศทางทวารหนัก โดย Édouard-Henri Avril


การร่วมเพศทางทวารหนักของบุคคลต่างเพศ
ตามที่ปรากฏในโลกตะวันตก การร่วมเพศทางทวารหนักระหว่างชาย-หญิงกลายมาเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เหตุผลประการหนึ่งก็คือมีความเสี่ยงจากการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ต่ำ อันเนื่องมาจากการร่วมเพศโดยไม่มีการป้องกัน นอกจากนี้ การร่วมเพศทางทวารหนักก็ถูกมองว่าช่วยป้องกันความเป็นพรหมจรรย์ของหญิงได้ เนื่องจากไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับเยื่อพรหมจรรย์ อีกประการหนึ่งนั้น การร่วมเพศทางทวารหนักก็ถูกมองว่า ให้ความสุขทางกามมากกว่า เนื่องจากรูทวารมีความแนบแน่นกว่าช่องคลอด


ภาพการร่วมเพศทางทวารหนักระหว่าง Hadrian กับ Antinous ซึ่งวาดโดย Édouard-Henri Avril ในคริสต์ศตวรรษที่ 19


การขยายตัวของจำนวนผู้นิยมการร่วมเพศทางทวารหนักนั้น ถูกกล่าวว่าเป็นเพราะการลดลงของการให้การศึกษาด้านเพศสัมพันธ์ และการให้ความรู้ผ่านสื่อเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ที่น้อยลง ทำให้ความระมัดระวังในความเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์น้อยลงไป ดังนั้น จูดี คูรินสกี แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบียจึงกล่าวว่า "การร่วมเพศทางทวารหนัก เป็นประเด็นสำคัญที่ร้ายแรงของสังคม"
ในทางประวัติศาสตร์แล้ว การร่วมเพศทางทวารหนักได้รับความนิยมในหมู่รักร่วมเพศชาย และชายผู้ร่วมเพศกับชาย (MSM) อย่างไรก็ตาม กลุ่มชายรักชายบางคนก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการร่วมเพศทางทวารหนัก และบางกลุ่มก็เพียงช่วยสำเร็จความใคร่ให้กัน

ผู้ติดตาม