xanga tracking
herbs-in-manman
manman clip
herbs-in-manman  flowermanman
manman.flixya
 hellomanman
 happy-topay
 invite-buying
 men-women-apparel

sex shop
diarylovemanman
 homemanman
 menmen-love
alovemanman
news-the-world
 foodmanman
 ghost-in-manman
 U.F.O.manman
herbs-in-manman
 manman

Friends talk contact man love
manes2006@ovi.com

Recommended.

คลังบทความน่ารู้ของบล็อก

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อันดับ 4 ฉากรักแนว หญิงรักหญิง ที่ดีที่สุด(Gia)

อันดับ 4 ฉากรักแนว หญิงรักหญิง ที่ดีที่สุด(Gia)

[Gia.png]


Gia เกีย เป็นภาพยนต์แนวหญิงรักหญิง ที่เป็นหนังสร้างจากเรื่องราวชีวิตจริง ของนางแบบชื่อดัง ที่มีชีวิตอยู่ ในช่วงปี 1960-1986ที่ชื่อว่า Gia Marie Carangi ค่ะ เป็นวัยรุ่นจาก Philadelphia ที่ย้ายมายังนิวยอร์ค แล้วได้รับการทาบทามให้เป็นนางแบบ แต่หลังจาก Linda ทิ้ง Gia ไปรักกับผู้ชาย Gia เลยซึมเศร้าอย่างแรงและทำให้ Gia ....

ข้อมูล ภาพยนต์เรื่อง Gia.กำกับการแสดงโดย : Michael Cristofer
.เขียนบทโดย : Jay McInerney , Michael Cristofer
.เข้าฉายวันที่ : 31 มกราคม 1998
.ความยาวภาพยนต์ : 126 นาที
.นำแสดงโดย ---Angelina Jolie แสดงเป็น Gia Carangi

รูปภาพตัวอย่างบางส่วน ของ อันดับ 4 ฉากรักแนว หญิงรักหญิง(Gia)

[Gia.png]


[Gia.png]


[Gia.png]


[Gia.png]


บทความที่เกี่ยวข้องกับ Angelina Jolie

อันดับ 3 ฉากรักแนว หญิงรักหญิง ที่ดีที่สุด

อันดับ 3 ฉากรักแนว หญิงรักหญิง ที่ดีที่สุด Desert Hearts

[desert_hearts.jpg]


เรื่องย่อ
Desert Hearts is set in 1959. Vivian Bell (Shaver), an English professor at Columbia University, travels to Nevada to establish 6-week residency to obtain a divorce. She stays at a guest house for women waiting for their divorces to be finalized, owned by Frances Parker (Lindley).

Vivian meets Cay Rivvers (Charbonneau) a free-spirited sculptor to whom Frances is a surrogate mother. Cay works at a casino as a change operator in Reno, and is ending a relationship with Darrell, her boss, because as she put it, she "allowed (her)self to be attracted to his attraction" for her. When Vivian arrives, Cay notices her, and tightly controlled and elegant Vivian in turn is taken aback by Cay's boldness and lack of concern of what others think of her. Cay reveals that she has had relationships with women in the past. Frances notices that Vivian is becoming a bigger part of Cay's life and resents her for it, afraid that Cay will leave her and she will be alone. When everyone attends an engagement party for Cay's best friend Silver, Cay drives a drunken Vivian to Lake Tahoe afterwards and kisses her. Vivian returns it passionately and is so surprised by her response that she begs Cay to take her home. When they return at the ranch in the early morning, Frances has had Vivian's bags packed and a taxi waiting for her, furious (wrongfully assuming) that she has seduced Cay. Cay leaves the ranch immediately and Vivian endures the rest of her stay in a hotel casino.

After some days apart, both Cay and Vivian are clearly confused and hurt. Cay goes to visit Vivian at her hotel and overcomes Vivian's resistance to making love to another woman and they begin an affair. With Vivian's impending finalization of her divorce, they must sort out the future of their relationship, Vivian afraid of what people will think of her, and Cay unsure of what she would ever do in New York City. Frances and Cay are brought together, and Cay admits to Frances that Vivian has "reached in and put a string of lights around her heart". As Vivian is at the train station to take her back, she convinces Cay to discuss coming with her just until the next station.

ข้อมูลภาพยนต์
กำกับการแสดงโดย : Donna Deitch
เขียนบทภาพยนต์โดย : Jane Rule (novel) , Natalie Cooper
นำแสดงโดย : Helen Shaver , Patricia Charbonneau , Audra Lindley
ออกฉายวันที่ : 28 สิงหาคม 1985
ความยาว : 96 นาที
รูปภาพประกอบ อันดับ 3 ฉากรักแนว หญิงรักหญิง

[desert_hearts.jpg]


[desert_hearts.jpg]


ข้อมูลอ้างอิง
http://en.wikipedia.org/wiki/Desert_Hearts

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Bound อันดับ 2 ฉากรักแนว หญิงรักหญิง ที่ดีที่สุด

[bound.jpg]



เรื่องย่อ
Corky (Gina Gershon) สาว lesbian ที่พึ่งออกมาจากคุก หลังจากติดคุกมา 5 ปี มาทำงานเป็นช่างทาสีและช่างประปาในอพาร์ทเม้นท์ และได้พบกับเพื่อนร่วมอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่ห้องถัดไป คือ Violet (Jennifer Tilly) ซึ่งเป็นเมีย Caesar (Joe Pantoliano) ซึ่งเป็นนักเลง เหตุการณ์ยุ่งยากจึงเริ่มก่อตัวขึ้น
ข้อมูลภาพยนต์
กำกับการแสดงโดย : Wachowski Brothers
เขียนบทโดย : Wachowski Brothers
นำแสดงโดย : Gina Gershon , Jennifer Tilly , Joe Pantoliano
สร้างโดย : Gramercy Pictures
ฉายครั้งแรกวันที่ : 31 สิงหาคม 1996
ความยาว : 108 นาที
งบประมาณการสร้าง : $6,000,000
รูปภาพประกอบ อันดับ 2 ฉากรักแนว หญิงรักหญิง

[bound.jpg]


[bound.jpg]

 

[bound.jpg] 

 

[bound.jpg]

 

[bound.jpg]



ข้อมูลอ้างอิง
http://en.wikipedia.org/wiki/Bound_(film)

อันดับ 1 ฉากรักแนว หญิงรักหญิง ที่ดีที่สุด

[WildSide.jpg] 


เรื่องย่อ
Alex Lee is a Long Beach bank executive who moonlights as a $1,500-a-night call girl for financial purposes which takes a turn when one of her clients, Bruno Buckingham is an international money launder/handler who takes an instant liking to Alex. But Bruno's personal chauffeur/bodyguard Tony turns out to be an undercover FBI agent who tells Alex to co-operate with him in helping to nail Bruno and if she refuses, they will nail her for prostitution. While trying to figure a way out of the predicament she's in, Alex takes a liking to Bruno's attractive Chinese wife Virgina Chow who doesn't realize that Bruno is setting her up as a patsy to take the blame for his crimes, while Alex is unaware that Tony plans to nail her anyway after he nails Bruno

ข้อมูลภาพยนต์
กำกับการแสดงโดย : Donald Cammell
เขียนบทโดย : China Kong , Donald Cammell
นำแสดงโดย : Anne Heche , Joan Chen , Christopher Walken
ออกฉายในปี : 1995
ความยาว : 96 นาที

รูปภาพประกอบ อันดับ 1 ฉากรักแนว หญิงรักหญิง

[WildSide.jpg]



[WildSide.jpg]



[WildSide.jpg]



[WildSide.jpg]


ข้อมูลอ้างอิง
http://www.imdb.com/title/tt0114941/plotsummary

การจูบ 10 วิธีที่ทำให้แฟนคุณอ่อนระทวย

[kissing+10.jpg]


การ จูบ ถือเป็นการอุ่นเครื่องก่อนที่คุณจะเริ่มมี sex บางคนอาจจะคิดว่าก็จูบแบบธรรมดาๆ นี่แหละ เหมือนกันทุกครั้ง แต่คราวนี้ไม่เหมือนกันค่ะ เพราะเราจะมาแนะนำวิธีการจูบอย่างลึกซึ้ง และมีขั้นตอน ชนิดที่ทำให้เขาของคุณ กลายเป็นขี้ผึ้งลนไฟได้ทีเดียว ลีลาการเคล้าเคลียแบบที่เราจะแนะนำนี้ จะทำให้เขาของคุณ ซาบซ่านตั้งแต่หัวจดเท้าเลยหล่ะ


  • จูบแห่งภูตพราย จูบบางเบาเหมือนสัมผัสแห่งภูติ จะทำให้เขาสั่นสะท้านไปถึงสันหลัง โดยเฉพาะถ้าคุณปฏิบัติอย่างช้าๆ และอ้อยอิ่ง ให้ใช้ริมฝีปากของคุณสัมผัสทักทายเขาแค่เพียงเบาๆ (อันนี้ก็ต้องมีท่าประกอบเล็กน้อย เช่น เอียงศีรษะของคุณไปมาอย่างยั่วเย้า) เมื่อคุณทำให้ริมฝีปากของเขาอุ่นขึ้นแล้ว ค่อยๆ ใช้ปลายลิ้นของคุณเลียริมฝีปากของเขาเบาๆ จากนั้นก็เป่าลมใส่เบาๆ การถูไถริมฝีปากของคุณกับเขาอย่างนิ่มนวล เป็นการทั้งกระตุ้นและยั่วอารมณ์ของเค้าได้ในคราวเดียวกัน มันเร้าอารมณ์ได้อย่างเหลือเชื่อเชียวแหละ

  • จูบผยอง จูบแบบเผาผลาญนี้จะทำให้เขาของคุณได้เห็นว่า ใครกันแน่ที่เป็นเจ้านาย ให้ใช้ปลายนิ้วของคุณลากไปตามเส้นรอบปากของเขาอย่างช้าๆ จากบนลงล่าง เมื่อลากมาถึงจุดกึ่งกลางริมฝีปากล่าง ให้ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้บีบริมฝีปากล่างแรงๆ จนดูเหมือนเขากำลังห่อริมฝีปากอยู่ จากนั้นดึงเขาเข้ามาใกล้ๆ และใช้ลิ้นชิมริมฝีปากของเขาที่คุณบีบเอาไว้ด้วยปากของคุณ มันจะให้ความรู้สึกรุนแรงและหยาบกระด้างเล็กน้อย ซึ่งบางครั้งผู้ชายก็อยากจะรู้รสความรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน

  • จูบหลอมลมหายใจ จูบที่แสนยาวนานนี้จะทำให้เขาแทบลืมหายใจเลยทีเดียว แต่ก็ต้องมีเทคนิคกันหน่อยนะ และเทคนิคที่ว่าคือ ต้องให้ปากต่อปากประกบกันแน่น จนแทบไม่มีช่องว่างให้อากาศรั่วไหลออกมาได้เลย จากนั้นก็ค่อยๆ อ้าปากคุณขึ้นแล้วสูดลมหายใจ ให้เหมือนกับว่าคุณดูดลมหายใจออกจากปอดของเค้า แต่ว่าต้องเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปนะ มันจะทำให้คุณสองคนรู้สึกเหมือนเป็นคนๆ เดียวกัน หายใจเข้าออกพร้อมๆ กัน

  • จูบสัตว์ป่า ฝังริมฝีปากของคุณใต้ติ่งหูของเขา และขณะที่คุณเลื่อนลงมาเรื่อยๆ ตามลำคอเขา ก็ค่อยๆ ใช้ฟันหน้าของคุณงับเนื้อของเขาขึ้นมาซักนิด ดึงเบาๆ แล้วปล่อย เพราะในขณะที่ร่างกายมีอารมณ์ทางเพศนั้น ร่างกายจะปล่อยสารเอนดอร์ฟินส์ออกมา ซึ่งจะช่วยกดตัวรับความรู้สึกเจ็บเอาไว้ และเปลี่ยนให้กลายเป็นประสบการณ์พิศวาสอันแสนเร้าใจ

  • จูบผลัดกันชม รอยจูบแบบนี้เป็นการเอาอกเอาใจซึ่งกันและกัน เริ่มด้วยคุณจูบริมฝีปากบนของเขา และเขาจูบริมฝีปากล่างของคุณถูไถไปมาสลับกับดูดเบาๆ เพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเขาให้ปั่นป่วนเล่น จากนั้นก็สลับกันคุณจูบริมฝีปากล่างเขาบ้าง และเขาก็จูบริมฝีปากบนของคุณ การดูดจะทำให้เลือดแล่นมาเลี้ยงที่ริมฝีปาก และจะทำให้เกิดความอบอุ่น อ่อนไหวอย่างบอกไม่ถูก

  • จูบฮอทแอนด์โคล การจูบแบบร้อนสลับเย็นนี้ จะทำให้คุณรู้สึกซาบซ่าน อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เริ่มต้นด้วยจิบเครื่องดื่มร้อน จากนั้นก็โน้มตัวเข้าไปหาเขา และฝังรอยจูบ อย่างดูดดื่มแบบใช้ลิ้นสัมผัสด้วยนะ ขณะที่เขาหยุดพักหายใจ ให้คุณหันมากินไอศกรีมช้อนนึง ปล่อยให้ปากเย็นลง แล้วหันไปจูบเค้าแบบเดิมอีกครั้ง การประกบปากกันแบบนี้ จะทำให้เขาหวั่นไหว เป็นสองเท่าของการจูบแบบธรรมดาเชียวหล่ะ

  • จูบนักล่า จูบแบบนี้ ทำให้คุณสามารถค้นหาจุดเร่าร้อนของเขาได้ โดยเริ่มต้นที่ รอยบุ๋มตรงกลางคอของเขา ระหว่างกระดูกไหปลาร้า จากนั้นคุณค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากลงมาตามตัวของเขา ผ่านแผ่นอก กล้ามท้องแล้วก็... ลงไปเรื่อยๆ จนถึงปลายเท้า อ้อ แล้วอย่าลืมสังเกต จุดที่พอคุณลากริมฝีปากผ่าน แล้วเค้าเกิดอาการเกร็ง หรือถอนหายใจ (อย่าลืมเวลาที่ลากริมฝีปาก จะต้องเผยอริมฝีปากของคุณ ดุนออกมานิดนึง แล้วลากเป็นวงกลมเล็กๆ ไปด้วย ที่สำคัญ ต้องสัมผัสกับผิวหนังเขา อย่าให้ขาดตอนเชียวนะ) เมื่อลงมาจนสุดทางแล้ว ให้ย้อนกลับขึ้นไปใหม่ ทีเนี๊ยแหละ เมื่อถึงจุดที่ทำให้ เขาถอนหายใจหนักหน่วงเป็นพิเศษ ให้โจมตีเป้าหมายได้ทันที ด้วยการดูดแรงๆ บริเวณนั้น รับรองอารมณ์ของเขา จะกระเจิดกระเจิง จนแทบอยากจะล่าคุณแทนเลยละ

  • จูบนักสำรวจ จูบแบบ ใช้ลิ้นสำรวจ ทุกซอกทุกมุม ภายในปากของเขา โดยเริ่มจาก เกร็งปลายลิ้นเล็กน้อย ขณะใช้ปลายลิ้น สัมผัสไปทั่ว เพดานปากของเขา แล้วก็คลายลิ้นให้อ่อนตัวลง แล้วปล่อยให้ตกไปที่ฟันของเขา จากนั้นใช้ลิ้นลูบ ไปตามแนวฟันช้าๆ เริ่มจากด้านในไปเรื่อยๆ แล้วจบโดย ใช้ลิ้นคุณตวัดลิ้นของเขา มันจะได้รสชาติใหม่ๆ ที่แปลกประหลาด ซาบซ่านไม่เบา

  • จูบผสานเสียงครวญ ฝังปากของคุณลงที่ ใต้ติ่งหูของเขาเป็นการเริ่มต้น แล้วค่อยๆ เลื่อนริมฝีปาก ไปตามแนวกราม พร้อมครางเบาๆ โดยเปลี่ยนโทนเสียง ให้แตกต่างกันไปด้วย เริ่มจากโทนเสียงต่ำๆ ไปจนถึงโหยหวน นั่นเป็นการสร้างความหวั่นไหว ให้เขาได้หลายรูปแบบ เสียงครางเป็นอะไรที่มากกว่า คุณบ่งบอกให้เขารู้ว่า คุณกำลังอยู่บนสวรรค์ชั้นเจ็ด ทว่ามันยังสร้างความรู้สึก ซู่ซ่าสั่นไหวอีกด้วย

  • จูบนางพญางู เป็นวิธีที่จะกระตุก อารมณ์พิสวาส ของเขาให้ เหมือนทะเลบ้าคลั่งเลยเชียวแหละ วิธีปฏิบัติคือ ให้แลบลิ้นของคุณออกมา แล้วแหย่มันเข้าไป ในปากที่หุบไว้หลวมๆ ของเขา แหย่เข้าๆ ออกๆ และยั่วยวน ผสมผสานลีลา ที่เหมือนงูฉก แบบนี้กับการร่วมรักไปด้วย คุณและเขา จะได้ความรู้สึกอันแสน เร้าร้อนเป็นสองเท่าทีเดียว มันจะให้ความรู้สึกเซ็กซี่ เวลาที่คุณผสมผสานจังหวะ การรุกล้ำให้เป็นหนึ่งเดียว

Most Expensive Bigini


ชุด บิกินี่แพงที่สุดในโลก ( Most Expensive Bikini )

[1-974.jpg]
รูปล่างเป็นบรา และสร้อยคอ รูปกางเกงว่ายน้ำ
[2-971.jpg]
Bikini บิกินี่ชุดนี้ประกอบได้เพชรกว่า 150 กะรัต ออกแบบโดยนักออกแบบนาม Susan Rosen ให้แก่ Steinmetz Diamonds นางแบบผู้สวมใส่คือ Molly Sims เพื่อถ่ายรูปลงนิตยสาร Sports Illustrated’s ปี 2006 ชุดบิกินี่ชุนี้ประกอบไปด้วยเพชรดังต่อไปนี้
.
เพชร รูปลูกแพร์ ( Pair diamonds ) หนัก 51 กะรัต จำนวน 1 เม็ด
.มรกต หนัก 30 กะรัต จำนวน 1 เม็ด
เพชรรูปครึ่งวงกลม ( Round-cut diamonds ) หนัก 15 กะรัต จำนวน 2 เม็ด
.เพชรรูปลูกแพร์ ( Pair diamonds ) หนัก 8 กะรัต จำนวน 2 เม็ด
และเพชรเม็ดเล็กอีก 23 กะรัต
.ตัวเรือนทำจากทองคำขาว ( Platinum )

ในชุดนี้ประกอบไปด้วย บรา กางเกง และสร้อยคอ มูลค่า 30 ล้านเหรียญยูเอส ( 1,050 ล้านบาท ) จึงทำให้มันเป็นชุด


บิกินี่ที่ แพงที่สุดในโลก


[4-922.jpg]
ข้อมูลอ้างอิง ชุด บิกินี่แพงที่สุดในโลก ( Most Expensive Bigini )
http://most-expensive.net/bikini
http://markpknowles.com/most-expensive-stuff-over-priced-toys/

วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

AROMA

กลิ่นหอมระเหย เมื่อเราสูดดมเข้าไปแล้ว สามารถเหนี่ยวนำให้เกิดความรู้สึก (Perception) ได้ต่างๆ นานา ตามแต่ชนิด ของกลิ่นหอมระเหยนั้น นักวิจัยพบว่า กลิ่นหอมสามารถทำให้ผู้สูดดมระลึกถึง เหตุการณ์ในอดีต หรือเหตุการณ์ในวัยเด็กได้ เป็นที่น่าแปลกใจว่า ถึงแม้คนทั่วไป ต่างยอมรับว่า กลิ่นหอมระเหย มีผลต่อความรู้สึก อารมณ์ และความทรงจำ แต่กลับพบว่า มีนักวิจัยศึกษาเรื่องนี้น้อยมาก ในขณะที่ภาคธุรกิจต่างนำน้ำมันหอมระเหย (Essential Oils) ไปใช้ในการนวดในสปา ที่เรียกกันว่า สุคนธบำบัด (aromatherapy) โดยเชื่อว่า การสูดดมน้ำมันหอมระเหยเข้าไป จะช่วยให้เกิดความรู้สึกต่างๆ ได้ ขอยกตัวอย่าง น้ำมันหอมระเหยที่ สปา ต่างๆ นิยมใช้กัน ได้แก่ (right picture from www.worth1000.com)

picture from www.worth100.com

  • กลิ่นตะไคร้ (Lemongrass) ทำให้รู้สึกสดชื่น หายอ่่อนเพลีย
  • กลิ่นมะนาว (Lemon) ทำให้รู้สึกสดชื่น กระตุ้นการตื่นตัว
  • กลื่นลาเวนเดอร์ (Lavender) ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด
  • กลิ่นมะลิ (Jasmine) ช่วยให้รู้สึกอ่อนหวาน ละมุนละไม
  • กลิ่นส้ม (Orange) ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด และเพิ่มความสดชื่น
  • กลิ่นกุหลาบ (Rose) เป็นกลิ่นเบาๆ สบายๆ ทำให้รู้สึกหวาน และอารมณ์รัก
  • กลิ่นโรสแมรี่ (Rosemary) กลิ่นหอมสดชื่น เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า
  • กลิ่นเปปเปอร์มิ้นท์ (Peppermint) กลิ่นหอมเย็น ทำให้เกิดความสดชื่น และกระปรี้กระเปร่า

การที่กลิ่นหอมระเหย มีผลต่อความรู้สึก ทำให้มนุษย์นำเอากลิ่นหอมไปประยุกต์ใช้ กับงานพิธีทางด้านจิตวิญญาณ เมื่อราว 5000 ปีที่แล้ว ชาวอียิปต์ได้นำเนื้อไม้บางชนิดที่มีกลิ่นหอม มาบดเป็นผงแล้วนำไปผสมกับยางไม้ และเครื่องเทศ ได้สิ่งที่เรียกว่า kyphi ซึ่งพวกเขาจะเผามันเพื่อให้เกิดกลิ่นหอมในพิธีบวงสรวงเทพเจ้าต่างๆ ในสมัยกรีกมีการนำน้ำมันหอมระเหย มาใช้ในการแพทย์และเภสัชสำอาง เมื่อถึงยุคของโรมัน ก็มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ ด้านกลิ่นหอมระเหย มีการนำเครื่องหอมมาใช้ในพิธีกรรมต่างๆ รวมไปถึงการนวดน้ำมันหลังการอาบน้ำ กันอย่างกว้างขวาง ว่ากันว่า จักรพรรดิเนโรแห่งอาณาจักรโรมันผู้โด่งดัง นั้นคลั่งไคล้ กลิ่นหอมระเหยเอามากๆ ทำให้ในพระราชวังของพระองค์ ต้องมีการออกแบบให้มีการส่งกลิ่นหอม และโปรยดอกไม้ออกมายามเสด็จพระราชดำเนิน และเมื่ออาณาจักรโรมันถึงกาลล่มสลาย เทคโนโลยีในการใช้น้ำมันหอมระเหยของพวกเขา ก็มลายหายไปด้วย สำหรับคนไทยเราแล้ว พวกเราคุ้นเคยกับการจุดธูป เพื่อบูชาพระ เมื่อใดก็ตามที่เราได้กลิ่นธูป ก็จะเกิดความรู้สึกสงบ-ศักดิ์สิทธิ์ ขึ้นมาทันที ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นจากสารหอมระเหยในธูปเอง หรือ เราสร้างมันขึ้นมาในจินตนาการ ? ความลับในเรื่องการรับรู้ทางด้านกลิ่น เป็นศาสตร์ทางด้าน neuro-cognitive science ที่กำลังมาแรง เพราะมันจะทำให้เราเข้าใจซะทีว่า สุคนธสัมผัสทำงานอย่างไร และส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์เราได้เช่นไร


กลิ่นหอมระเหย เหนี่ยวนำความรู้สึกด้านวิญญาณได้อย่างไร วิทยาศาสตร์กำลังหาคำตอบ

ศาสตร์ของ aromatherapy สมัยใหม่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จากการค้นพบโดยบังเอิญของนักเคมีชาวฝรั่งเศส ว่าน้ำมันลาเวนเดอร์สามารถใช้รักษาแผลไฟลวกได้ ต่อมามีผู้นำไปใช้ร่วมกับการนวด ทำให้เกิดการแพร่หลาย ในประเทศไทยเอง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกลิ่นหอมระเหยมีมูลค่าสูงมาก โดยข้อมูลจาก ททท. ระบุว่านับตั้งแต่ พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา รายได้ของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพิ่มขึ้นปีละ 40% นับเป็นอัตราการเติบโตที่สูงมาก โดยกรมส่งเสริมการส่งออก ได้ให้ข้อมูลว่า ในปี พ.ศ. 2545 ประเทศไทยมีรายได้จากธุรกิจสุขภาพ และความงาม ถึง 25,000 ล้านบาท ข้อมูลจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพระบุว่า ระหว่างปี พ.ศ. 2544-2545 มีผู้ใช้บริการสปาในประเทศไทย เป็นจำนวนถึง 3.3 ล้านคน (เป็นคนไทย 0.7 ล้านคน และชาวต่างชาติ 2.6 ล้านคน) ประเทศไทยถึงกับประกาศว่าจะให้ไทยเป็น Spa Capital of Asia

thai spa สปา นาโน
ด้วยเอกลักษณ์ด้านการนวด ผสมผสานกับกลิ่นของพันธ์พืชหอมไทย ทำให้ประเทศไทย
กำลังจะกลายเป็น เมืองหลวงแห่งสปาในไม่ช้านี้

ปกติในการใช้นวดสปานั้น จะไม่ใช้น้ำมันหอมระเหยนวดโดยตรง แต่จะใช้น้ำมันกระสายยา (Carrier Oils) เพื่อให้เจือจาง โดยผสมน้ำมันหอมระเหยเข้าไปในอัตราส่วนต่างๆ กันไป น้ำมันกระสายยา หรือ น้ำมันตัวพา ที่นิยมใช้กันได้แก่

  • Sweet Almond Kernel Oil - น้ำมันอัลมอนด์ มีสาร olein, linoleic acid, glucosides, vitamin D
  • Apricot Kernel Oil - น้ำมันแอปปริคอท มี polyunsaturated fatty acid
  • Macadamia Nut Oil - น้ำมันแมคคาดาเมีย มี palmitoleic acid และ vitamin A
  • Camellia Seed Oil - น้ำมันเมล็ดชา มี oleic acid
  • Grape Seed Oil - น้ำมันเมล็ดองุ่น
  • Hazelnut Oil - น้ำมันเฮเซลนัท มีวิตามิน โปรตีน แร่ธาตุ และ linoleic acid ใช้นวดหน้าได้

การนำน้ำมันหอมระเหย มาผสมผสานกับการนวดไทย นับว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของสปาไทย เมื่อก่อนสปา จะกินความหมายเพียง การแช่น้ำแร่ น้ำพุร้อน แต่ปัจจุบันมีประเภทของสปาแบบอื่นๆ เกิดขึ้นอีกหลายแบบ (จากหนังสือของ วันเฉลิม จันทรากุล) ได้แก่

  • Spring Spa (น้ำพุร้อนสปา) เป็นรูปแบบดั้งเดิม อาศัยการแช่น้ำแร่เพื่อช่วยลดการเจ็บป่วยบางชนิด ประเทศไทยเราไม่มีสปาแบบนี้ ถึงแม้จะมีสถานที่ให้บริการแช่น้ำแร่ แต่ก็ไม่ได้ทำในรูปแบบของสปา
  • Club Spa เป็นสปาขนาดเล็กที่จัดไว้ในบริเวณของสถานออกกำลังกาย อย่างเช่น ที่โรงแรมโซฟิเทลราชาออร์คิด จังหวัดขอนแก่น สปาจะอยู่ใน Fitness Club แต่ปัจจุบันได้ขยายออกมาทำให้ใหญ่ขึ้น จำนวนพนักงานบริการมากขึ้น
  • Day Spa เป็นสปาที่เน้นบริการด้านความสวยงามประเภทนวดหน้า เพิ่มสัดส่วน บริการรักษาผิวพรรณ โดยไม่ได้เน้นทางด้านการบำบัดมากนัก ได้รับความนิยมโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ
  • Medical Spa เป็นสปาในลักษณะของคลีนิคทางการแพทย์ มีโปรแกรมบำบัดรักษาโดยใช้หลักการแพทย์สมัยใหม่ ผสมผสานกับแพทย์แผนตะวันออก เช่น การฝังเข็ม การทำ detox การใช้หลักชีวจิต เป็นต้น
  • Hotel & Resort Spa เป็นสปาในรูปแบบของโรงแรมและ รีสอร์ท เน้นความเป็นสถานที่พักผ่อน มีบรรยากาศที่ร่มรื่น สวยงาม เหมือนเป็นอาหารตา แพ็กเกจสปาของสถานบริการแบบนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง ชาวต่างประเทศนิยมใช้บริการ โดยการซื้อกับทัวร์จากต่างประเทศ ที่ดังๆ ก็มี ภูใจใส จังหวัดเชียงราย หรือ อลีนตา ที่ปราณบุรี เป็นต้น
  • Destination Spa เป็นสถานบริการสปาแบบครบวงจร ให้บริการหลายรูปแบบ โดยอาจเป็นคอร์ส ที่ใช้เวลาเต็มวันถึงหลายๆ วัน มีบริการหลายแบบ เช่น วารีบำบัด โภชนาการแบบควบคุม การปฏิบัติโยคะ เป็นต้น ตัวอย่างเช่น ชีวาศรม ที่ปราณบุรี
  • Home Spa เป็นรูปแบบของสปาแบบใหม่ สำหรับคนที่ชอบการทำสปาที่บ้าน สามารถทำได้เอง หรือ อาจสั่งแบบ delivery มาที่บ้านก็ได้


การนำศาสตร์สุคนธบำบัด มาผสมผสานกับการนวดแผนไทย ทำให้สปาไทยโด่งดังไปทั่วโลก (Picture from www.chivasom.com)

ประเทศไทยมีความร่ำรวยทางด้านพรรณพืชหอม ซึ่งอาจนำมาทำน้ำมันหอมระเหยได้ หลากหลายมาก แต่น่าแปลกใจที่ประเทศไทย กลับนำเข้าเครื่องหอมเข้าประเทศ อย่างเช่นในปี พ.ศ. 2546 คิดเป็นมูลค่าถึง 3,500 ล้านบาท ดร. ประเทืองศรี สินชัยศรี ได้จัดกลุ่มของเครื่องหอมไทยเอาไว้ดังนี้

  1. พืชที่ดอกมีกลิ่นหอม
    ตัวอย่าง: มะลิลา กระดังงา กฤษณา แก้ว กันเกรา การะเกด ชงโค ขจร คัดเค้า จันทน์กะพ้อ จำปูน จำปา จำปี ชัยพฤกษ์ ชะเอมไทย ซ่อนกลิ่น ตันหยง นมแมว นิโลบล บุหงา บัวเผื่อน บานเย็น ประดู่ พะยอม พิกุล พุด พุดซ้อน โมก ยี่โถ ราตรี ลำดวน เล็บมือนาง โสก สนสร้อย สายน้ำผึ้ง
  2. พืชที่ใบมีกลิ่นหอม
    ตัวอย่าง: โหระพา ตะไคร้ เตยหอม พิมเสน สะระแหน่ เนียม ผักชี พลู มะกรูด แมงลัก ยูคาลิป กระเพราขาว
  3. พืชที่เปลือกมีกลิ่นหอม
    ตัวอย่าง: ไม้หอม อบเชย การบูร กระแจะ กระเทียมต้น
  4. พืชที่ผลหรือเมล็ดมีกลิ่นหอม
    ตัวอย่าง: กระวาน กาแฟ เทียนขาวเปลือก จันทน์เทศ
  5. พืชที่ราก หรือส่วนคล้ายราก มีกลิ่นหอม
    ตัวอย่าง: กระชาย ขิง ข่า ขมิ้น ไพล แฝกหอม
  6. พืชที่ยางมีกลิ่นหอม
    ตัวอย่าง: กำยาน
  7. พืชที่ต้นมีกลิ่นหอม
    ตัวอย่าง: ตะไคร้ ตะไคร้หอม ไม้หอม จันทนา กำลังเสือโคร่ง จันทน์

เมื่อเทียบกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ แล้ว จีโนมเกี่ยวกับ การรับกลิ่นของมนุษย์อาจด้อยกว่า สัตว์จำพวกสุนัข ทั้งจำนวน gene ที่เข้ารหัสโปรตีนรับกลิ่น (Odor Receptor) ที่มีจำนวนน้อยกว่า รวมทั้งจำนวน odor receptor เองก็มีน้อยกว่ามาก ทำให้สุนัขมีความสามารถในการรับกลิ่นที่ไวกว่าเรามาก อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า ความรับรู้กลิ่น (Perception) หรือ สุคนธสัมผัส (aroma sense) ของเราจะด้อยกว่า เพราะกลิ่นที่เราได้รับ สามารถสร้างหรือก่อให้เกิดภาวะทางวิญญาณ (mind system) ได้อย่างซับซ้อน ซึ่งอาจจะมากกว่าสัตว์อื่นๆ ด้วยซ้ำ ในฐานะที่มนุษย์มีระบบสมองที่ซับซ้อนกว่ามาก การได้กลิ่นของเรา สามารถชักนำอารมณ์ ความจำ ความรู้สึกต่างๆ ได้ ในขณะที่สัตว์อื่นๆ อาจใช้เพียงเพื่อหาอาหาร หาคู่ และหลีกหนีอันตราย แต่ภาวะทางวิญญาณของมันนั้น ยังเป็นเรื่องที่เราไม่มีข้อมูลเลย

perfume น้ำหอม กลิ่น
น้ำหอม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายโมเลกุลกลิ่น น้ำหอมแต่ละัขวดเกิดจากการสร้างสรรค์
ของนักผสมน้ำหอมที่เรียกว่า perfumer (Picture from www.perfumer-cn.com)

แม้จีโนมเรื่องการรับกลิ่นของเรา จะด้อยกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด แต่ระบบการรับรู้กลิ่นของเรา ก็ยังมีความซับซ้อนมาก มนุษย์ที่ถูกฝึกมาโดยเฉพาะเช่น นักดมน้ำหอม อาจมีความสามารถจดจำกลิ่นได้ถึง 10,000 ชนิด แต่สำหรับคนทั่วไปนั้น อาจจะจดจำกลิ่นได้เพียงจำนวนในหลักร้อยหรือพันเท่านั้น โดยสามารถแยกแยะกลิ่นไปต่างๆ นานา ตามประสบการณ์ของตน เช่น กลิ่นไหม้ กลิ่นเปรี้ยว กลิ่นวานิลลา กลิ่นโลหะ กลิ่นหืน กลิ่นกุหลาบ กลิ่นกาแฟ และอื่นๆ โดยจมูกมนุษย์นั้น มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถจับกลิ่นที่มีน้ำหนักโมเลกุลที่หนักกว่า 300 ดาลตัน (หนักเท่าไฮโดรเจน 300 อะตอม) ทำให้ไม่สามารถดมกลิ่นที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูง รวมทั้งก๊าซพิษหลายๆ ชนิด เช่น คาร์บอนมอนนอกไซด์ เป็นต้น อีกทั้งการระบุกลิ่นก็ไม่เที่ยงตรง แต่ละคนจะมีความรู้สึกไม่เท่ากัน ที่สำคัญที่สุดคือ ไม่สามารถระบุกลิ่นในเชิงปริมาณได้ รู้เพียงว่ากลิ่นแรงหรืออ่อนๆ เท่านั้น

เมื่อคนเราสูดดมอากาศเข้าไป อากาศก็จะนำพาไอของโมเลกุล ซึ่งอาจมีกลิ่นเข้าไปในโพรงจมูกของเรา ซึ่งกระแสลมแปรปรวน (Turbulence) ในโพรงจมูกจะช่วยทำให้ไอโมเลกุลนั้น เกิดการสัมผัสกับต่อมรับกลิ่น ซึ่งอยู่บนเซลล์ประสาทรับกลิ่น โดยปลายข้างหนึ่งของเซลล์นี้จะไปรวมกันที่ต่อมรวมประสาท (Glomeruli) ซึ่งมันจะทำหน้าที่ขยายสัญญาณ (Amplifier) แล้วนำสัญญาณประสาทส่งไปสู่สมองส่วนที่เรียกว่า Olfactory Cortex การรับรู้กลิ่นเกิดจากการทำงานในระดับนาโน กล่าวคือ โมเลกุลของกลิ่นจะเกิดอันตรกริยา หรือจับตัวเข้ากับโมเลกุลรับกลิ่น (receptor) ซึ่งมีอยู่หลากหลายชนิด สมมติว่าเราดมกลิ่นทุเรียนเข้าไป ไอระเหยของทุเรียนนั้นมีโมเลกุลอินทรีย์นับสิบชนิด โมเลกุลอินทรีย์จากทุเรียนสามารถเข้าจับกับโมเลกุลรับกลิ่นในจมูก ก็จะเกิดรูปแบบขึ้นมา สมองก็จะจดจำว่า ถ้ากลิ่นทุเรียนมาก็รู้ว่าเป็นทุเรียน ทีนี้ถ้าทุเรียนต่างชนิดกัน เช่น หมอนทอง กับ ชะนี ก็อาจมีชนิดของโมเลกุลอินทรีย์ต่างกัน ทำให้สมองจำรูปแบบได้ว่า เป็นทุเรียนคนละประเภท นี่คือคำอธิบายว่าทำไมสุนัขถึงจดจำเจ้าของได้ เพราะรูปแบบที่เกิดขึ้นระหว่างโมเลกุลกลิ่น-โมเลกุลรับกลิ่น มีความจำเพาะเจาะจงและซับซ้อน อีกทั้งยังมีความหลากหลายทำให้ไม่ซ้ำกัน


กลิ่นสร้างสรรค์จินตนาการได้ แต่บางครั้งการเห็นภาพ ก็ทำให้เกิดกลิ่นได้ ลองมองภาพนี้ จากซ้ายไปขวาช้าๆ แล้วคุณรู้สึกอย่างไรที่จมูก น่ากินมั้ย? (Picture from www.mykonosreport.gr)

ประสาทรับรู้กลิ่นนั้น สามารถแยกแยะกลิ่นในเชิงคุณภาพได้ นักดมน้ำหอมสามารถแยกแยะกลิ่นได้นับ 10,000 ชนิด แต่ในเชิงปริมาณนั้น สัมผัสด้านกลิ่นของเรา แย่กว่าทางด้านการมองเห็นมาก กล่าวคือ เราแยกระดับความแรงของกลิ่นได้ไม่มาก อาจจะได้เพียง 5 ระดับเท่านั้น เช่น ไม่มีกลิ่น กลิ่นอ่อนมาก กลิ่นอ่อน กลิ่นปานกลาง กลิ่นแรง กลิ่นแรงมาก โดยมีความผิดพลาดได้ค่อนข้างมาก ในการจำแนกกลิ่นเชิงคุณภาพนั้น เรามักจะแยกแยะกลิ่นโดยระบุว่ามันคล้ายอะไร นักดมน้ำหอมก็มีวิธีการของตนเอง ในขณะที่นักชิมไวน์ก็มีวิธีการจำแนก กลิ่นของตนเอง

ตัวอย่างการระบุกลิ่นของนักดมน้ำหอม พวกเขาได้จำแนกกลิ่นหอมออกเป็น 9 กลุ่ม (ขวัญใจ เอมใจ, "ศาสตร์และศิลป์ของกลิ่นหอม", สารคดี, ธันวาคม 2540) ได้แก่

  1. Citrus กลิ่นสด ซ่าน ในกลุ่มส้ม มะนาว
  2. Aromatic กลิ่นหอมจากพืชพันธุ์ต่างๆ
  3. Floral กลิ่นหอมจากดอกไม้
  4. Green กลิ่นหอมสดชื่นจากใบไม้ ใบหญ้า
  5. Fruity กลิ่นหอมหวานของผลไม้
  6. Spicy กลิ่นหอมร้อนแรงของเครื่องเทศ สมุนไพร
  7. Woody กลิ่นหอมทึบ สุขุม มั่นคง
  8. Powdery กลิ่นหอมนวลเนียน
  9. Animal กลิ่นจากสัตว์

นอกจากนั้นพวกนักดมน้ำหอม ยังมีอารมณ์ศิลป์ โดยการจำแนกกลิ่นตามความรู้สึก ที่กลิ่นสร้างหรือเหนี่ยวนำให้เกิด ได้แก่

  1. กลิ่นหอมโรแมนติก
  2. กลิ่นแห่งความหยิ่งทะนง
  3. กลิ่นแห่งความลึกลับ
  4. กลิ่นของพลังอิสระ
  5. กลิ่นของความเสน่หา

กามาสูตรา กางเกงยีนส์













ท่าร่วมรัก จากสาว FHM ( Kama Sutra By FHM )




ท่า Butterfly


ท่า Classic Doggie


ท่า Deep Fish


ท่า Laxy Doggie


ท่า Reserve Cowgirl


ท่า Side Saddle Cowgirl


ท่า Stad Deliver


ท่า The Plough


ท่า The ReserseSpoon

ผู้ติดตาม