xanga tracking
herbs-in-manman
manman clip
herbs-in-manman  flowermanman
manman.flixya
 hellomanman
 happy-topay
 invite-buying
 men-women-apparel

sex shop
diarylovemanman
 homemanman
 menmen-love
alovemanman
news-the-world
 foodmanman
 ghost-in-manman
 U.F.O.manman
herbs-in-manman
 manman

Friends talk contact man love
manes2006@ovi.com

Recommended.

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

วิธีชะลอการหลั่งเร็วของเพศชาย


วิธีชะลอการหลั่งเร็วของเพศชาย

สำหรับปัญหาที่ทุกคนประสบกันมาก และพบได้บ่อย ก็คือปัญหาการหลั่งเร็ว ฉะนั้น เราควรจะมาเรียนรู้เทคนิคที่ทำให้เราหลั่งช้า ซึ่งจะทำให้เป็นประโยชน์กับคนที่หลั่งเร็วทั้งหลาย ซึ่งการหลั่งเร็วนั้น จะทำให้ฝ่ายหญิงเกิดความไม่บรรลุถึงจุดสุดยอด ขาดความสุข และก็จะเบื่อเราในที่สุด มาเริ่มกันเลยดีกว่า
การหลั่งช้านั้น ผมว่าทำได้ไม่ยาก ถ้าเราปฏิบัติตามวิธีของผมดังนี้

ผมขอยกตัวอย่างวิธีของ มอสเตอร์และจอนสัน เขาบอกว่าการที่จะหลั่งช้านั้น สามารถที่จะทำได้หลายวิธี เช่น เบี่ยงเบนความสนใจขณะร่วมเพศนั้นไปที่จุดอื่นบ้าง เช่น ทำให้เกิดความเจ็บ หรือคิดถึงเรื่องอื่น อีกวิธีหนึ่งคือบีบที่อัณฑะ แล้วก็ดึงให้อัณฑะลงมาต่ำเล็กน้อยขณะร่วมเพศ จะช่วยให้หลั่งช้าได้ ส่วนวิธีของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่แนะนำมา (ที่ผมเคยได้ยินมานะ) เช่น ขณะที่ใกล้จะถึงจุดสุดยอดนั้น ให้เอานิ้วกดที่จุดระหว่างทวารหนัก กับอัณฑะ กดแล้วผ่อน กดแล้วผ่อน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ช่วยชลอการหลั่งได้

อีกวิธีหนึ่งก็คือ เมื่อร่วมเพศจนใกล้จะหลั่ง แล้วก็หยุด พอหยุดสักพัก แล้วก็เริ่มใหม่ พอใกล้จะหลั่งอีกก็หยุด ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะชลอการหลั่งได้ สำหรับวิธีของผมนี่ก็คล้ายกับมาสเตอร์และจอห์นสัน ผมก็จะเบี่ยงเบนความสนใจไปที่เรื่องอื่นขณะร่วมเพศ เช่น คิดถึงเรื่องเรียน เดี๋ยวจะกินข้าวกับอะไร ทำอะไร หรือสูตรทางคณิตศาสตร์ต่าง ๆ พยายามคิดให้มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเพศเข้าไว้ แล้วคุณจะหลั่งช้าโดยอัตโนมัติเอง ซึ่งจุดนี้ต้องฝึกฝนกันหน่อย ผมว่าบางคนอาจจะปฏิบัติได้ยาก ผมพูดเหมือนง่าย แตอาจจะปฏิบัติได้ยาก เพราะห้ามใจไม่ให้คิดไม่ได้ …แต่เชื่อผมสิ ลองไปทำกันดู คิดถึงเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องทีมัน serious เนี่ย ช่วยได้ ชะงักดีนักแล

แต่สำหรับวิธีของหมอนพพรที่ให้ขมิบนั้น ผมว่ามันดีทีเดียว มันเป็นการแก้ที่ต้นเหตุเลยแหละ แต่ผมก็ยังทำไม่ได้ ขมิบวันละ 300-400 ที รวมระยะเวลากว่า 2-3 เดือน ผมทำไม่ได้ เมื่อยตูด แต่ถ้าคุณทำได้นะ ผมขอแนะนำวิธีนี้แหละ มันเป็นการแก้ที่ต้นเหตุ แต่ก็ขอเตือนไว้ว่า การหลั่งช้ามันเป็นผลดี ถ้าเป็นการหลั่งช้าในระดับที่พอสมควร แต่ถ้าหลั่งช้าจนเกินไป จนเกิดปัญหา ฝ่ายหญิงเจ็บนั้น ผมคิดว่ามันก็ควรจะแก้ไขปรับปรุง ผมมีตัวอย่างเพื่อนของผมคนหนึ่ง หลั่งช้ามาก เวลาร่วมเพศกับใครที ผู้หญิงก็จะบ่น จะเจ็บ ไม่มีความสุข อันนั้นแหละ เรียกว่าหลั่งช้าเกินไป หลั่งช้าในระดับที่พอสมควร ระดับที่ปกติ ก็คือหลั่งที่ถึงจุดสุดยอดพร้อม ๆ กับผู้หญิง คือใช้เวลาสอดใส่ประมาณ 15-30 นาที อันนั้นแหละ คือการหลั่งช้าที่เหมาะสม

เทคนิคการ!นั้น จะว่าไปแล้ว มันมีในเรื่องของรายละเอียดเยอะ แต่ผมจะไม่พูดถึงรายละเอียด ผมจะพูดถึงช่วงเวลาคร่าว ๆ การปฏิบัติในแต่ละช่วงระยะเวลาการ!คร่าว ๆ การร่วมเพศนั้น แบ่งได้เป็น 3 ช่วงใหญ่ ๆ คือ ในขั้นแรก prelude ขั้นที่สอง interlude ขั้นสุดท้าย postlude

ในขั้น prelude นั้น คือขั้นของการเล้าโลม เพื่อให้เกิดอารมณ์ทั้งสองฝ่าย ขั้นนี้ควรจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 15 นาที เพื่อที่จะให้ฝ่ายหญิงเกิดความพร้อม เพื่อให้น้ำหล่อลื่นออกมาพอสมควร เหมาะแก่การร่วมเพศ ซึ่งการถึงจุดสุดยอดเร็วหรือช้าของฝ่ายหญิงนั้น มันขึ้นอยู่กับขั้น prelude นี่แหละ ถ้ามีการ prelude ที่เพียงพอแล้ว พอถึงขั้น interlude ต่อไป ฝ่ายหญิงจะถึงจุดสุดยอดได้ง่าย และเร็วกว่าการที่ prelude น้อย ๆ ปัญหาทางเพศส่วนใหญ่ของฝ่ายหญิงที่ไม่บรรลุจุดสุดยอดก็คือ ขาดการเล้าโลมที่เพียงพอของฝ่ายชาย เราควรจะใส่ใจ และไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว ส่วนรายละเอียดนั้น ผมจะไม่ลงลึก แต่จะขอบอกข้อคิดให้แล้วกัน ว่าเมื่อเราเล้าโลมเขาแล้วเนี่ย ควรจะเรียนรู้ว่าจุดไหนเขาชอบ จุดไหนเขาไม่ชอบ แล้วเราก็ทำตรงจุดที่เขาชอบ ซึ่งควรจะมีการถามตอบกันตลอดขณะเล้าโลมว่า ชอบไหม ชอบตรงไหน มากน้อยแค่ไหน นี่แหละ เป็นการปรับเซ็กส์เข้าหากันอย่างดีเลย ทั้งสองฝ่าย

มาถึงขั้น interlude เป็นขั้นที่ลงลึกถึงการสอดใส่ มีเพศสัมพันธ์ ขั้นนี้จะใช้เวลามากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับธรรมชาติของแต่ละคู่หนุ่มสาว แต่ไม่ควรจะใช้เวลาน้อยเกินไป ควรจะใช้เวลาประมาณสัก 15-30 นาที อันนี้ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม ในขั้นสอดใส่นี้ เราไม่ควรใช้ท่าท่าเดียว ควรเปลี่ยนท่าไปตลอด และก็ควรจะถามตอบกันอีกเช่นกัน ว่าท่าไหนที่ฝ่ายตรงข้ามชอบมากที่สุด และจะทำให้ถึงจุดสุดยอดได้ง่ายที่สุด ซึ่งการเข้าใจกันในเรื่องบนเตียงนี้ มันต้องเริ่มจากการถามตอบกัน ถึงความต้องการของแต่ละฝ่าย ซึ่งเราควรจะรับรู้แล้วปรับเข้าหากัน แล้วทุกขั้นจะผ่านไปได้ด้วยดี

ขอบคุณที่มา : pramool.com

เคล็ดลับ การควบคุม น้องชาย ให้สู้นาน


+ เคยวัดขนาดเจ้าหนูตัวเองอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต
+ มักบวกความยาวเพิ่มให้อาวุธตัวเองอย่างน้อย 1 นิ้วโดยอัตโนมัติ
+ ปฏิเสธว่าไม่เคยแอบสำรวจอาวุธคนอื่นเพื่อเปรียบเทียบ (ซึ่งจริงๆ แล้วตรงกันข้าม)

เป็น เรื่องทำใจยากสำหรับผู้ชายที่จะยอมรับขนาดแท้จริงของตัวเอง ไม่ใหญ่ไปก็เล็กไป ยิ่งเวลาอยู่ในห้องน้ำรวมละก็ ดูเหมือนใครต่อใครพกอาวุธด้ามโตมาโชว์ทั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอาวุธ(ของเขา)ที่อยู่ในครอบครอง(ของเรา) จะมีขนาดใหญ่เล็กประมาณใด แต่ถ้ากระตุ้นเร้าให้ถูกจุด อาวุธนั้นย่อมเด้งดึ๋งปึ๋งปั๋งและเต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพแสนขยัน มาดูจุดยุทธศาสตร์สำคัญกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

ส่วนหัว
เป็นส่วนที่ไวต่อการสัมผัสที่สุด เป็นศูนย์รวมของเส้นประสาทก็ว่าได้ ขนาดใหญ่เล็กแตกต่างกันไป ในรายที่ไม่ได้ขลิบหนังหุ้มปลายออก ก็จะมีหนังหนาๆ หุ้มไว้เป็นเกราะปกป้องตลอดเวลา
เคล็ดลับ ผู้ชาย ไม่มีปุ่มกระสันอย่างที่ผู้หญิงมีคลิตอริสหรือจี-สปอต ซึ่งเป็นบันไดสู่จุดสุดยอด แต่ผู้ชายมีชิ้นเนื้อเล็กๆ รูปตัววีที่อยู่ใต้ส่วนหัวของเจ้าหนู ตรงนี้ละที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงคลิตอริส

ลำตัว
หรือที่เรียกว่าด้ามอาวุธนั่นละ ข้างในคือท่อปัสสาวะที่ห่อหุ้มด้วยเนื้อเยื่อคล้ายฟองน้ำ ตามปกติจะห่อเหี่ยวไม่น่าสนใจ แต่เมื่อถูกกระตุ้นปั๊บ จะเด้งดึ๋งเพราะมีเลือดคั่งมากกว่าปกติถึง 8 เท่า
เคล็ดลับ ตลอดแนวข้างใต้ลำกล้องเต็มไปด้วยปลายประสาทมากมาย

ส่วนฐาน
เจ้าหนูเป็นอวัยวะที่ฝังรากลึกลงในร่างกาย ย้อนเข้าไปใต้ต่อมลูกหมากต่อไปยังทวารหนัก ซึ่งส่วนเชื่อมต่อนี้ไวต่อการสัมผัสเป็นพิเศษ ผู้ชายบางคนเอนจอยกับการถูกกระตุ้นบริเวณนี้มาก (บริเวณที่อยู่ระหว่างลูกอัณฑะกับทวารหนัก)
เคล็ดลับ ถึง แม้เป็นอวัยวะที่ใช้ทำหน้าที่ทั้งปัสสาวะและหลั่งอสุจิ แต่ไม่ต้องกลัวว่าเขาอาจสับสนเห็นเราเป็นส้วม เพราะร่างกายของผู้ชายจะปิดสวิตช์กระเพาะปัสสาวะในระหว่างกำลังไคลแม็กซ์ค่ะ

ลูกอัณฑะ
หรือเจ้าไข่แฝดสองใบนั่นเอง นี่คือบ้านของตัวทำลูกหรือน้ำอสุจิ บ้านหลังนี้จำเป็นต้องรักษาอุณหภูมิให้เย็นสบายอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้อสุจิถูกทำลายเพราะความร้อน นี่คือสาเหตุที่ผู้ชายนั่งแหกขา ก็เพื่อระบายความร้อนไงคะ
เคล็ดลับ ไข่แฝดนี้อัดแน่นไปด้วยปลายประสาทมากมาย เพื่อความสุขสมในระหว่างมีเซ็กซ์ นี่คือเหตุผลที่ผู้ชายเจ็บเจียนตายเมื่อถูกเตะหว่างขา

**** ถ้าอยากรู้ว่าเขาจวนเจียนเขื่อนพังหรือยังให้สังเกตลูกอัณฑะ ถ้าหดตัวเกร็งแน่นละก็ หนุ่มของคุณเกือบถึงเส้นชัยแล้วละ ***

ขอบคุณที่มา : thiswomen.com

ความเจ็บกับการร่วมเพศ

ความเจ็บกับการร่วมเพศ

ความเจ็บกับการร่วมเพศ


มีคำถามบ่อยๆ เรื่องการร่วมเพศแล้วเจ็บโดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกของฝ่ายหญิง มันก็เป็นเรื่องธรรมดาครับใหม่ๆ ก็เจ็บกันทั้งนั้น เจ็บมาก เจ็บน้อย ก็แล้วแต่คน บางคนแต่งงานไปหลายวันแล้วจึงมีเพศสัมพันธ์สำเร็จ การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ก็เหมือนแกะก้อนทิชชูนั่นแหละครับ ถ้าคุณฉีกออกแบบใจร้อน มันก็ขาดรุ่งริ่งไปหลายแผ่น คงต้องค่อยๆ แกะ แผ่นแรกหลุดออกมาได้แผ่นต่อๆ ไปก็...ง่าย ใช่ไหมครับ ดังนั้นต้องใจเย็นๆ ครับ คืนนี้ไม่ได้เธอเจ็บก็หยุดก่อน พรุ่งนี้ค่อยพยายามใหม่ อย่าได้ฝืนเป็นอันขาด เพราะถ้าเกิดฝ่ายหญิงกลัว, วิตก หรือแหยกับการร่วมเพศครั้งแรก อาจเป็นบาดแผลในจิตใจของเธอไปตลอดได้ จนบางคนถึงกับมีอาการเกร็งและต่อต้านการร่วมเพศ เป็นเหตุให้ร่วมเพศไม่ได้อีกเลย ภาษาหมอเรียกอาการนี้ว่า vaginismus

การร่วมเพศแล้ว เจ็บนี้ ภาษาหมอเขาเรียกว่า Dyspareunia อ่านว่า ดีส-พา-รู-เนีย อาการเจ็บนี้หมายถึงเจ็บที่อวัยวะเพศและอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับเพศนะครับ ไม่ใช่เจ็บใจหรือเจ็บตัวจากการถูกทำร้ายร่างกาย ถ้าเป็นหญิงก็หมายถึง ร่วมเพศแล้วเจ็บที่อวัยวะเพศ,มดลูก, ปีกมดลูก ถ้าเป็นชายก็หมายถึง อวัยวะเพศชายหรือต่อมลูกหมาก

ของฝ่ายหญิงก็อย่างที่บอกแต่ต้นว่า การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกของหญิงมักเจ็บ ก็เพราะยังไม่เคยถูกขยาย ถ้าฝ่ายชายใช้ความรุนแรงอาจทำให้ช่องคลอดฉีกขาดได้ และถ้าอวัยวะของชายใหญ่โตมโหราฬ บางรายอาจฉีกขาดถึงทวารหนักก็มี

มีอีกกรณีที่การเจ็บปวดของฝ่ายหญิงเกิดจากการอักเสบของต่อมบาร์โธลีน (Bartholien's gland) ต่อมนี้อยู่บริเวณปากช่องคลอดทั้งสองข้าง มีหน้าที่สร้างมูกมาหล่อเลี้ยงช่องคลอด ถ้าอักเสบขึ้นมาก็จะบวม เจ็บ จนไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้

คนสูงอายุหรือหญิงวัยทองที่ขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนอาจทำให้ช่องคลอดแห้ง, บาง, ความยืดหยุ่นของผนังช่องคลอดเสียไป ถ้ามีการร่วมเพศก็อาจทำให้เจ็บปวดได้ จึงเป็นเหตุให้หญิงหลายคนเบื่อการมีเพศสัมพันธ์พาลเข้าวัดเข้าวาไปเลย ถ้าสามีภรรยาไม่เข้าใจธรรมชาติของคนวัยนี้ก็อาจเป็นจุดหักเหของชีวิต บางรายถึงกับเลิกร้างกันไปก็มี

ปุ่มคลิตอริสหรือเม็ดละมุดหรือที่เรียกว่า ปุ่มกระสัน ก็อาจเป็นจุดหนึ่ง ที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดได้ โดยเฉพาะชายที่ชอบคลึงขยี้ด้วยความรุนแรง ก็ทำให้ฝ่ายหญิงเจ็บได้

ฝังมุกก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ก่อความเจ็บปวดยามร่วมเพศของฝ่ายหญิงได้ ใครเป็นต้นคิดผมไม่ทราบ แต่เมื่อสามสี่สิบปีก่อนมันได้สร้างความงุนงงให้กับแพทย์ เมื่อเอ๊กซเรย์แล้วเจอเม็ดกลมๆ ขาวๆ ที่อวัยวะเพศ เมื่อซักไซ้ถามคนไข้ดูก็ถึงได้รู้ว่า เป็นเม็ดที่ทำจากขวดน้ำมันใส่ผมชื่อตันโจก็เลยเรียก ตันโจโนดูล (tancho nodule)

แล้วผู้หญิงชอบหรือเปล่า...ผมถามผู้หญิงหลายคนแล้ว บางคนบอกว่าเฉยๆ บางคนก็บอกว่า เจ็บ มิน่า...ถึงมีหลายๆ รายมาให้เอาออกบอกว่า เมียไม่ชอบ

ทีนี้ก็มาถึงส่วนลึกเข้าไปในช่องคลอดของฝ่ายหญิง สาเหตุที่ทำให้ฝ่ายหญิงเจ็บปวดก็คือ การร่วมเพศที่ไม่มีน้ำหล่อลื่น ก็เหมือนเครื่องยนต์ที่ไม่มีน้ำมันเครื่องนั้นแหละ ลูกสูบก็ฝืดจนติดได้ การไม่มีน้ำหล่อลื่นของฝ่ายหญิงอาจเกิดจากความไม่พร้อมจะร่วมเพศเช่น เหนื่อยเพลีย เบื่อหน่าย เซ็งต่อชีวิต หรือในรายที่หญิงถูกข่มขืน

การร่วมเพศที่ยาวนานของฝ่ายชาย ที่ภูมิใจนักภูมิใจหนาว่า "อึด" เป็นชั่วโมงๆ ยังไม่เสร็จ ก็อาจทำให้ช่องคลอดแห้งและสร้างความเจ็บปวดให้กับฝ่ายหญิงได้เช่นกัน

อวัยวะเพศชายที่ใหญ่และยาว ก็อาจไปกระแทกโดนปากมดลูก หรือโดนรังไข่ ทำให้หญิง "เจ็บ" และ "จุก" ได้เช่นกัน ใหญ่นักก็ไม่ดีนะครับ

อุ้งเชิงกรานอักเสบ โดยเฉพาะโรคหนองในที่ฝ่ายชายนำมาฝาก ก็เป็นสาเหตุให้เกิดความเจ็บปวดได้ และเมื่อหายแล้วเกิดเป็นผังผืดในช่องท้อง ก็อาจทำให้เกิดความเจ็บปวดได้เช่นกัน

ผู้ชายล่ะ...ไม่เจ็บบ้างหรือ ?

มีครับแต่พบได้ค่อนข้างน้อย ที่อาจพบได้ก็ในรายที่ช่องคลอดฝ่ายหญิงไม่มีน้ำหล่อลื่น... แหม...ฝืดๆ มากๆ เสียดสีไป เสียดสีมา มันก็เจ็บเหมือนกัน
อ้อ...ห่วงอนามัยที่ผู้หญิงใส่เพื่อคุมกำเนิดอาจเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ฝ่ายชายเจ็บ โดยเฉพาะในกรณีที่ห่วงหลุด หรือปลายก้านโผล่มาที่ปากมดลูก พอร่วมเพศก็โดนตำเอาซิครับ
บางรายอาจปวดลูกอัณฑะขณะหลั่งน้ำอสุจิหรือปวดที่ต่อมลูกหมากก็มี หรือในรายที่หนังไม่เปิด บางคนก็อาจมีความเจ็บปวดเวลาร่วมเพศได้

แล้วจะหายเจ็บไหม ?

หายซิครับ ปัญหาอยู่ที่ไหนก็แก้ตรงต้นเหตุ เมื่อเหตุหาย ผลก็หาย ไม่ต้องกังวลนะครับ ถ้ามีเพศสัมพันธ์แล้วมีอาการเจ็บปวดก็อย่าปล่อยให้ชีวิตต้องล้มเหลวเพราะเหตุนี้....แก้ได้ครับ

วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2553

11ท่าร่วมเพศสำหรับมือใหม่หัดสนุก


11ท่าร่วมเพศสำหรับมือใหม่หัดสนุก

1. ท่านิวมิชชันนารี (The New Missionary)
ส่วน มากจะคล้ายท่ามิชชันนารี (หญิงอยู่ล่าง ชายอยู่บน) จุดเน้นอยู่ที่ขาทั้งสองของผู้หญิง เมื่อผู้ชายนอนคว่ำหน้าเหยียดยาวราบบนตัวผู้หญิง ให้ผู้หญิงยกขาทั้งสองไขว้รอบเอวผู้ชายไว้ เพื่อช่วยให้ผู้ชายสอดใส่ง่ายขึ้น

คำแนะนำ : ยิ่งผู้หญิงยกขาสูงเท่าไรผู้ชายก็ยิ่งสอดใส่ได้ลึกมากขึ้นเท่านั้น ท่านี้มีข้อดีของท่ามิชชันนารีอยู่ด้วย คือคู่รักสามารถสื่อสารกันได้ด้วยสายตา สองมือเคลื่อนไหวได้อิสระ และยังกระตุ้นอารมณ์ได้ดีอีกด้วย

++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบที่ 1: ผู้หญิงใช้เรียวขาทั้งสองไขว้โอบรอบสะโพก หลังหรือแม้กระทั่งไหล่ของผู้ชาย โดยให้เป็นรูปตัววี
แบบ ที่ 2: สำหรับผู้หญิงพลังสูงก็น่าจะใช้สองเรียวขาไขว้โอบรัดลำตัวของฝ่ายชายไว้ จากนั้นพลิกตัวกลับให้อยู่ในท่าผู้หญิงอยู่บนผู้ชายอยู่ล่าง
แบบที่ 3 : ถ้าคุณใช้ท่านิวมิชชันนารีแล้วยังรู้สึกเบื่อแทบตาย ก็จงรีบเปลี่ยนไปใช้ท่าอื่นเสียเถอะ

2. ท่าหกคะเมน (69 Linkage)
หรือ ที่เรียกว่า ท่า 69 เป็นท่าที่เป็นไปตามตัวเลข คือการกลับหัวกลับหาง ไม่ว่าชายหญิงนอนลงแล้วใครจะอยู่บนหรือล่างก็ไม่เป็นปัญหา หากแต่เคล็ดลับของท่านี้อยู่ที่ปาก และนอกจากใช้ปากแล้วยังใช้มือเป็นตัวช่วยได้อีก

คำแนะนำ : ท่า 69 เป็นท่าที่แสดงได้ถึงความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นของทั้งคู่ และยังมีคนมองว่านี่น่าจะเป็นท่าที่ทั้งสองได้สัมผัสเรือนร่างกันและกัน แต่ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศให้ดีก่อนและจะดีที่สุดเมื่อได้พูดคุยกันก่อนใช้ ท่านี้

++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
เวลา ใช้ท่า 69 นี้ให้ทั้งคู่ลองใช้ท่าคะแคงนอนเพื่อให้รู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในท่วงท่า ที่ตนเป็นฝ่ายรุกทั้งสองคน และนอกจากใช้ปากแล้วก็น่าจะใช้มือเข้าช่วยด้วย

ไม่แนะนำ : ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรๆที่มีกลิ่นคาวหรือรสฝาดขมก็ควรจะเลี่ยงท่านี้ และห้ามใช้ท่านี้ตอนเมาแอ๋เด็ดขาด

3. ท่ามิชชันนารี (The Missionary)
เชื่อ กันว่าท่าร่วมรักที่ชายอยู่บนหญิงอยู่ล่างนั้นเป็นท่าร่วมรักที่แพร่หลายที่ สุดในโลก เป็นท่าร่วมรักซึ่งเป็นธรรมชาติที่สุดและเหมาะสมที่สุด

คำแนะนำ : ผู้หญิงหัวโบราณที่มองเรื่องเพศเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ย่อมเป็นสาวกของท่า นี้ ถ้าคุณไม่ชอบใจท่าร่วมรักที่เหมือนสัตว์ และอยากส่งสายตาประสานกันขณะร่วมรักแล้วใช้สองมือลูบไล้เรือนร่างของอีกฝ่าย ท่ามิชชันนารีนี้ก็น่าจะเป็นท่าแรกที่คุณเลือกใช้ในการร่วมรัก

++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบที่ 1: ใช้มือของคุณให้เป็นประโยชน์
แบบที่ 2: ให้เรือนร่างของเขาแนบชิดสนิทกับตัวคุณ สองแขนโอบกอดคุณไว้แนบแน่น เพื่อรับรู้ถึงจังหวะและแรงกระแทกของการสอดใส่เข้าออก

ไม่แนะนำ : ถ้าคุณชอบเป็นฝ่ายรุกในกิจกรรมบนเตียงแล้วล่ะก็ ท่ามิชชันนารีอาจทำให้เบื่อตายเลยก็ได้

4. ท่าหูกระต่าย (The Rabbit Ears)
ฝ่าย หญิงยกเรียวขาทั้งสองขึ้นกอดไว้ พร้อมถ่างขาออกแล้วชันเข่าจนเกือบถึงใบหู เปิดเผยให้เห็น "กิฟต์เซต" ซึ่งฝ่ายชายจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนขณะที่เขากำลังสอดใส่

คำแนะนำ : ท่ายากๆที่พลิกแพลงมาจากท่ามิชชันนารีนี้เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ตัวอ่อนมากๆและเป็นท่าที่เหมาะสำหรับผู้ชายที่มี "เจ้าหนูสั้น"

++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบที่ 1: เหมือนท่าร่วมกอดรัดเป็นตัว V โดยใช้หมอนรองไว้ตรงช่วงเอว จะช่วยให้ส่วนล่างของร่างกายทั้งคุณและเขาได้สัมผัสกันได้ลึกขึ้น
แบบ ที่ 2: ให้เขาใช้มือยกก้นของคุณขึ้น หรือลูบไล้คลึงเคล้นบริเวณที่ไวต่อการสัมผัสบนตัวคุณ เพื่อกระตุ้นปลุกเร้าให้คุณมีอารมณ์มากขึ้น

ไม่แนะนำ : ถ้าเขามี "เจ้าหนูยาว" และคุณเองทนรับแรงกดบริเวณเอวไม่ไหว้ ก็อย่าลองใช้ท่านี้จะดีกว่า

5. ท่าโก้งโค้ง (The Doggie)
ผู้หญิง คุกเข่าอยู่ในท่าคลานสี่ขา มือทั้งสองยันพื้นค้ำลำตัวไว้ หรือจะโก้งโค้งปล่อยช่วงบนลำตัวให้เป็นอิสระก็ได้ ผู้ชายคุกเข่ากางขาอยู่ระหว่างสองขาของผู้หญิง ใช้สองแขนโอบรัดเอวผู้หญิงไว้ แล้วสอดใส่จากข้างหลังเข้าไป

คำแนะนำ : ท่าโก้งโค้งเป็นหนึ่งในสามท่าเด็ด และเป็นท่วงท่าร่วมรักเบื้อต้น ท่านี้ผู้ชายทำหน้าที่เป็นคนนำจังหวะ ส่วนใหญ่ผู้ชายที่มี "เจ้าหนูสั้น" มักจะชอบใช้ท่านี้ เพราะสามารถสอดใส่ได้ลึก ควบคุมจังหวะให้ช้าหรือเร็วก็ได้ สำหรับผู้หญิงก็รู้สึกได้ว่ามี "แท่งเนื้อ" สอดใส่อยู่ในร่างกายตัวเองแม้จะ "สั้น" ก็ตาม ถ้าหากคุณชอบเป็นผู้รับ คุณก็น่าจะชอบท่วงท่านี้

++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบ ที่ 1: ผู้ชายใช้มือข้างหนึ่งจับมือทั้งสองของผู้หญิงไว้ ให้ความรู้สึกเหมือนถูกพันธนาการ ส่วนอีกมือของเขาก็ลูบไล้คลึงเคล้นก้นของผู้หญิง
แบบที่ 2: ผู้ชายใช้มือข้างหนึ่งยกเรียวขาของผู้หญิงขึ้น ส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้คลึงเคล้นเต้านมหรือ "น้องหนู" ที่ไม่มีอะไรปิดบัง ซึ่งจะทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นขณะสอดใส่ ส่วนฝ่ายหญิงก็จะมีความสุขจากการถูกสัมผัสลูบไล้ด้วยมือของเขา

ไม่แนะนำ :ข้อ เสียของท่านี้ก็คือ ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ส่งสายตาและไม่มีการตอบโต้จากฝ่ายหญิง เนื่องจากฝ่ายชายสอดใส่จากด้านหลังจึงทำให้ "น้องหน" ของเธอได้รับการกระตุ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยทั่วไปท่านี้จะทำให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดยาก ถ้าหากคุณไม่ชอบให้ผู้ชายกำหนดและมองว่าการใช้ท่วงท่าร่วมรักที่ไม่ได้หัน หน้าเข้าหากันเป็นเรื่องหยามน้ำใจกัน ท่าโก้งโค้งนี้จะไม่เพียงทำให้คุณไปไม่ถึงจุดสุดยอดเท่านั้น แต่ยังทำให้คุณอารมณ์เสียและโมโหได้อีกด้วย

6. ท่าตะแคง (The Sideways)
ทั้ง สองนอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน ผู้ชายยกเรียวขาผู้หญิงขึ้นแล้วสอดใส่เข้าออก ร่างกายส่วนบนของทั้งคู่จึงเป็นอิสระ ดังนั้นจะจูบกันหรือสัมผัสลูบไล้คลึงเคล้นอีกฝ่ายก็ได้ตามชอบใจ

คำแนะนำ :ใคร ที่ชอบท่ายากๆ หรือว่าฝ่ายชายมี "เจ้าหนูยาว" น่าจะลองใช้ท่านี้ดู เพราะหาก "เจ้าหนูสั้น" จะไม่สามารถสอดใส่ได้ลึกนักถ้าใช้ท่านี้ และยังยากที่จะกระแทกสอดใส่เข้าไปอย่างแรงๆได้ ท่านี้จึงเป็นท่า "ผ่อนหนักเป็นเบา" สำหรับผู้หญิงที่ไม่อาจทนรับการกระแทกกระทั้นแรงๆได้

++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
ถ้า คุณติว่าท่านี้ใข้ไม่ได้ผล ก็อาจจะลองเปลี่ยนจากท่านี้ไปเป็นให้ชายอยู่บนหรือหญิงอยู่บนก็ได้ จงจำวไว่หลายๆท่วงท่านั้นทั้งชายหญิงต้องมีใจที่อยากจะลองทำกันดูเพื่อให้ ได้อารมณ์ แต่ที่สำคัญก็คือ อย่าฝืน

คำแนะนำ: ถ้าคุณรู้สึกหงุดหงิดเหมือนเกาไม่ถูกที่คัน หรือฝ่ายชายมี "เจ้าหนูสั้น" ก็อย่าได้เลือกใช้ท่านี้เลย

7. ท่าสองเต้นหนีบ "เจ้าหนู" (The Breast Pusher)
ผู้ชาย นั่งทับบนเรือนร่างที่นอนเหยียดยาวของผู้หญิงตรงบริเวณราวสะดือ ใช้หน้าอกของผู้หญิงหนีบ "เจ้าหนู" ของเขาไว้ และลูบไล้คลึงเคล้นเต้านมผู้หญิงเพื่อให้เกิดความรู้สึกว่า "เจ้าหนู" ได้ถูกถูรูดไปมา

คำแนะนำ : เป็นท่วงท่าที่พบกันบ่อยมากจนนักแสดงหนังโป๊ผู้ชายมักจะชื่นชอบท่วงท่านี้ กันมาก เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ชอบความตื่นเต้นอยากรู้อยากเห็นการแข็งตัวหดตัวของ "เจ้าหนู" ของผู้ชาย หากคุณคิดว่าตัวเองมีหน้าอกใหญ่ และชอบบทบาทนักแสดงในฝัน ทั้งยังรู้สึกดีที่ถูกกระตุ้นจากการลูบไล้คลึงเคล้นเต้านมแล้วล่ะก็น่าจะลอง ใช้ท่านี้ดู

++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบ ที่ 1: ถ้าฝ่ายชายมีน้ำหนักตัวมากเกินไปก็น่าจะลองเปลี่ยนท่าดู หรือจะให้เขานั่งตรงขอบเตียงหรือโซฟา แล้วค่อยจัดท่วงท่าให้เหมาะสมก็ได้
แบบที่ 2: ถ้าหากคุณเป็นคนนำในการร่วมรักแล้ว ก็น่าจะลองใช้ปลายลิ้นหรือปลายนิ้วเข้าช่วยในการกระตุ้นเร้าอารมณ์ "เจ้าหนู" ไปด้วย

ไม่แนะนำ : ท่าสองเต้าหนีบ "เจ้าหนู" เป็นท่าที่ออกจะล้ำเส้นหน่อย ถ้าหากคุณไม่ชอบท่านี้เพียงเพราะว่าคุณรู้สึกเหมือนว่าผู้ชายมีอำนาจเหนือ กว่า หรือหากคุณไม่มีความสุขก็น่าจะบอกเขาตรงๆว่า "อย่าทำให้ฉันต้องลำบากใจเลย"

8. ท่าหันหน้าเข้าหากัน (The Opposite)
ท่วง ท่านี้เป็นการพลิกแพลงจากท่ามิชชันนารีและท่าผู้หญิงอยู่บน ทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน สองแขนโอบกอดกันไว้ สองขาไขว้เกี่ยวรัดกันไว้ด้วย ซึ่งโดยปกติผู้ชายจะนั่งเป็นฐาน (ให้ผู้หญิงนั่งทับ ซึ่งทำให้ผู้หญิงสามารถเป็นคนควบคุมจังหวะเข้าออกได้)

คำแนะนำ :คน ชอบกอดกันมักชอบท่าหันหน้าเข้าหากันที่โรแมนติกนี้ เพราะเรือนร่างทั้งสองคนจะได้สัมผัสกันได้มากขึ้น และยังแนบหน้ากันได้ด้วย สำหรับอีกฝ่ายที่มีหน้าตาหล่อเหลาหรือสะสวย และชอบร่วมรักกันไปจูบกันไปด้วย ท่านั่งนี้จะให้ความรู้สึกโรแมนติกที่สุดในการร่วมรัก

++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบ ที่ 1: ถ้ายังไม่เคยชินกับการเห็นอวัยวะเพศที่หันเข้าหากันอย่างโจ่งแจ้ง จะใช้ผ้าปูที่นอนห่มปิดช่วงล่างของร่างกายไว้ แล้วประสานสองมือวางบนหน้าอกให้อยู่ในท่านั่งที่เห็น "จุ๊กกรูกับจุ๋มจิ๋ม" แบบพอวับๆแวมๆ จะให้ความรู้สึกปลุกเร้าอารมณ์เพศได้ดีกว่าท่วงท่าอื่นๆ
แบบ ที่ 2: เมื่อเริ่มใช้ท่านี้ให้ลองใช้นิ้วมือเขี่ยวาดเบาๆวนไปมาบนใบหน้าของเขา แล้วเลื่อนนิ้วมือลงไปข้างล่าง ถ้าเขารู้ใจคุณเขาก็จะทำตามบ้าง จากนั้นคุณจึงพา "เจ้าหนู" ของเขาไปอยู่ในช่องทางที่ถูกต้อง แล้วค่อยปล่อยให้เขาแสดงบทบาทต่อเอง

ไม่แนะนำ :สำหรับผู้หญิงที่ชอบทำอะไรให้เสร็จเร็วๆ อาจติว่าท่านั่งนี้ให้จังหวะช้าจนเกินไป ท่วงท่านี้จึงควรเป็นท่วงท่าที่ใช้ชั่วคราวเท่านั้น

9. ท่าชูแขนยกขา (The V-formation)
ผู้หญิง นอนหงายในขณะที่ผู้ชายใช้มือทั้งสองจับข้อเท้าผู้หญิงแล้วยกเรียวขาทั้งสอง ของเธอขึ้นสูง พร้อมถ่างขาผู้หญิงออกให้เป็นรูปตัว V ถ้าเหนื่อยหรือเมื่อย สามารถพักขาเธอไว้บนไหล่ของผู้ชายแล้วร่วมรักกันต่อไปได้

คำแนะนำ : ผู้หญิงที่ชอบท่ามิชชันนารีมักชอบท่าชูแขนยกขานี้ เพราะสามารถผ่อนคลายเรียวขาทั้งสองได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าเขาจะเป็นตะคริวเพราะถูกกดไว้นานหรือบ่อยเกินไป และเมื่อเรียวขาทั้งสองถ่างออกอ้าซ่าเช่นนั้น แม้เขาจะเป็นพวกที่มี "เจ้าหนูสั้น" ก็จะไม่ทำให้เกิดอาการ "เกาไม่ถูกที่คัน" และเยี่ยมที่สุดก็คือ คุณจะได้เห็นท่าทางเซ็กซี่ของเขาในขณะที่เขาจูบขาอ่อนของคุณ แต่นี่สำหรับหนุ่มรูปหล่อเท่านั้นล่ะ

++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบที่ 1: หาหมอนนุ่มๆ สักใบหนุนตรงช่วงเอวไว้ให้ช่วงล่างของเรือนกายได้สัมผัสแนบเนื้อเข้าถึงกันมากขึ้น
แบบที่ 2: เมื่อเรียวขาทั้งสองของคุณวางอยู่บนหัวไหล่ของเขา ก็น่าจะลองสอนให้เขาใช้มือที่ยังว่างอยู่ทำ "อะไรๆ ก็ได้ตามใจชอบ"

ไม่แนะนำ :สำหรับ ผู้หญิงที่ชอบเป็นฝ่ายรุกบนเตียงก็อย่ามามัวเสียเวลากับท่านี้ ยิ่งถ้าคุณไม่มั่นใจในน่องตัวเองด้วยแล้ว ท่านี้ก็อาจทำให้คุณรู้สึกกระอักกระอ่วนใจได้

10. ท่าคาวบอยสาวนั่งหันหลัง (The Reverse Cowgirl)
ผู้ชาย นอนหงาย ผู้หญิงหันหลังแล้วนั่งครอมลงไปบน "เจ้าหนู" ให้สอดใส่เข้าไปลึกแค่ไหนก็ได้ด้วย ท่านี้พลิกแพลงจากท่าผู้หญิงอยู่บนนั่นเอง

++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบ ที่ 1: คุณอาจจะบอกให้เขาช่วยดึงมือทั้งสองของคุณจากด้านหลัง เพื่อเพิ่มแรงลากให้ตัวคุณ หาจุดที่กระตุ้นเร้า "น้องหนู" ได้ดีที่สุด
แบบ ที่ 2: ถ้าเขาเป็นพวกที่มี "เจ้าหนูยาว" คุณน่าจะลองนอนหงายลงไปบนตัวเขา เขาจะใช้สองมือมาคลึงเคล้นลูบไล้เต้านมของคุณเองโดยธรรมชาติ แน่นอนว่าต้องระวังว่าเขาจะรับน้ำหนักตัวคุณได้ด้วยหรือไม่

ไม่แนะนำ : ถ้าคุณไม่มีอารมณ์กับท่าผู้หญิงอยู่บน ไม่ว่าคุณจะนั่งหันหน้าหรือนั่งหันหลังก็ไม่มีอะไรแตกต่างกัน

11. ท่าผู้หญิงอยู่บน (The Woman On Top)
ผู้ชาย นอนหงาย ผู้หญิงหันหน้าเข้าหาผู้ชาย นั่งคร่อมลงบน "เจ้าหนู" ที่กำลังตื่นตัว และเป็นฝ่ายคุมจังหวะเข้าออก นอกจากนี้ยังควบคุม "เจ้าหนู" ให้สอดใส่เข้าไปลึกได้ตามที่ต้องการด้วย

คำแนะนำ :ท่า นี้เหมาะสำหรับร่วมรักในช่วงตั้งครรภ์ และผู้ชายลงพุงก็ใช้ท่านี้ได้เช่นกัน แต่มีข้อพึงระวังคือ เมื่อฝ่ายหญิงกำลังโยกตัวขึ้นลงอย่างรุนแรง ขณะร่วมรักอยู่นั้น "เจ้าหนู" มีโอกาสหลุดออกจากช่องคลอดได้

++เพิ่มดีกรีความเร่าร้อน
แบบที่ 1 : ถ้าคุณนั่งคู้เข่าแล้วเหนื่อย ก็ลองนอนเหยียดขาทั้งสองออกไปตรงๆ
แบบที่ 2 : ลองปรับเปลี่ยนท่านั่งดูไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ท่าที่กระตุ้นเร้า "น้องหนู"ของคุณจนรู้สึกดีที่สุด

ไม่แนะนำ : ถ้าฝ่ายชายมี "เจ้าหนูยาว" แล้ว "น้องหนู" ของคุณจะรองรับไหวหรือไม่ และหากว่าคุณรู้ตัวว่าเป็นคนที่ทำอะไรไม่มีจังหวะจะโคนแล้วล่ะก็ ขออย่าได้ลองท่านี้จะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของคุณนอนของคุณเอง

ขอบคุณที่มา : tarnchai.org

ผู้ติดตาม