xanga tracking
herbs-in-manman
manman clip
herbs-in-manman  flowermanman
manman.flixya
 hellomanman
 happy-topay
 invite-buying
 men-women-apparel

sex shop
diarylovemanman
 homemanman
 menmen-love
alovemanman
news-the-world
 foodmanman
 ghost-in-manman
 U.F.O.manman
herbs-in-manman
 manman

Friends talk contact man love
manes2006@ovi.com

Recommended.

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

หนองในเทียม

หนองในเทียมหนองในเทียมเป็นหนึ่งในสี่ของโรคที่พบบ่อยในคลินิกกามโรคชาย (หนองในแท้ หนองในเทียม โรคเริม และหูดหงอนไก่) อาจมาเดี่ยวๆโรคเดียว หรือมาพร้อมกับโรคหนองในแท้ก็ได้ หนองในเทียมส่วนใหญ่จะรักษาหายด้วยยากิน แต่ก็มีคนไข้ส่วนหนึ่งที่รักษาหายยาก (มีไม่ถึง 10 %) จัดอยู่ในประเภทหนองในเทียมที่รักษายาก

เมื่อมีการอักเสบในท่อปัสสาวะ เอาหนองหรือของเหลวจากท่อปัสสาวะมาตรวจย้อมแล้วส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์(หรือตรวจด้วย วิธีอื่น) ถ้าไม่พบเชื้อหนองในแท้ (gram negative dipplococci) เราจะจัดให้อยู่ในกลุ่มหนองในเทียมทั้งหมด เพราะการรักษาไม่ต่างกัน

หนองในเทียมมีชื่อภาษาอังกฤษหลายชื่อ เช่น NGU, NSP, PGU แต่ละชื่อมีความแตกต่างกันเล็กน้อย


รูปเชื้อหนองในเทียม

NGU (Non-Gonococcal Urethritis) ในผู้ชาย เมื่อตรวจหนองแล้วพบว่ามีการอักเสบ แต่ไม่พบเชื้อหนองในแท้ แต่อาจพบเชื้ออื่นเช่น Chlamydia หรือ ureaplasma หรือเชื้ออื่นๆ

NSU (Non-Specific Urethritis) หมายถึง ท่อปัสสาวะอักเสบ จะไม่พบเชื้อใดๆ อาจอักเสบอาจเกิดจากการสวนท่อปัสสาวะ เคล็ดจากการมีเพศสัมพันธ์ แพ้ยา แพ้อาหารทะเล หรือเกิดจากการบาดของผลึกอาหารบางอย่าง

PGU (Post-Gonococcal Urethritis) หมายถึง การอักเสบในท่อปัสสาวะหลังรักษาหนองในแท้หายแล้ว

ตัวต้นเหตุ
ติดมาได้ยังไง
นานแค่ไหนถึงมีอาการ
มีอาการอะไรบ้าง
หมอตรวจยังไง
ถ้าไม่รักษาจะเกิดอะไรขึ้น
แล้วจะรักษายังไง
แล้วจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร

จากข้อความที่เกริ่นข้างต้นคงพอจะทราบแล้วว่า หนองในเทียมมีทั้งประเภทที่มีเชื้อและไม่มีเชื้อ ประเภทที่มีเชื้อ ก็มีได้หลายเชื้อ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส โปรโตซัว หรือเชื้อรา ซึ่งเชื้อส่วนใหญ่ (เกินครึ่ง) ที่ตรวจพบคือเชื้อ Chlamydia trachomatis และ Ureaplasma urealyticum ส่วนโรคเริมหรือพยาธิในช่องคลอด (Trichomanas vaginalis) ก็อาจทำให้เกิดหนองในเทียมได้

ส่วนใหญ่ติดจากการร่วมเพศ ไม่ว่าจะเป็น ทางปาก ทางช่องคลอด หรือทางทวารหนัก ก็ติดโรคนี้ได้ทั้งสิ้น ผู้ชายหลายคนอาจคิดว่า การให้ผู้หญิงใช้ปากโดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยจะไม่ทำให้ติดโรค ถือเป็นความเข้าใจที่ผิด ! นอกจากสาเหตุหลักนี้แล้ว สาเหตุอื่นที่ทำให้ติดโรคได้เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ การอักเสบของต่อมลูกหมาก เคล็ดจาการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง แพ้ยา หรือแพ้สารอาหารบางอย่าง

หลังรับเชื้อมาแล้วหนึ่งถึงสามสัปดาห์ หรือบางรายอาจนานเป็นเดือน หนองในเทียมจะเริ่มแสดงอาการ

ส่วนหนองในแท้จะแสดงอาการเร็วกว่าหนองในเทียม โดยจะแสดงอาการภายใน 3-4 วัน

ในผู้ชาย อาการมักเกิดหลังติดเชื้อประมาณ 1-3 สัปดาห์ โดยจะมีอาการแสบที่ปลายท่อปัสสาวะ ปัสสาวะแสบขัดเล็กน้อย บางรายอาจคันหรือระคายเคืองท่อปัสสาวะ หรือปวดหน่วงตรงฝีเย็บใกล้ทวารหนัก มีหนองซึม ลักษณะเป็นมูกใสหรือมูกขุ่น (หนองในแท้ หนองจะมีลักษณะข้นกว่า) มีออกเพียงเล็กน้อย ในระยะแรกอาจรู้สึกแสบๆในท่อปัสสาวะ และมีมูกออกเล็กน้อยเฉพาะในช่วงเช้าเท่านั้น ต่อมาจะเริ่มแสดงอาการมากขึ้น

ในผู้หญิง มักไม่แสดงอาการ อาจมีเพียงตกขาวผิดปกติ หรือปัสสาวะแสบเล็กน้อยในบางครั้ง

เด็กแรกเกิดที่แม่มีเชื้อหนองในเทียม โดยเฉพาะเชื้อ Chlamydia อาจมีอาการตาแดงตาอักเสบหรือปอดบวมได้

       


สำหรับผู้ชาย นำสารคัดหลั่งจากท่อปัสสาวะมาย้อมสี ส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ ถ้ามีสารคัดหลั่งน้อย หมออาจเอาลวดแหย่เข้าไปในท่อปัสสาวะเพียงตื้นๆ เพื่อเอาสารคัดหลั่งมาตรวจ แต่ถ้าใครมีหนองหรือเมือกให้เห็น ก็เอาแผ่นกระจกป้ายแล้วนำมาย้อมสี ส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ การตรวจเพียงแค่นี้ก็นับว่าเพียงพอแล้วสำหรับการวินิจฉัย แต่ถ้ารักษาแล้วยังไม่ดีขึ้นหรือไม่หาย ก็ต้องตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีการอื่น เช่น เพาะเชื้อ ตรวจ PCR เป็นต้น

นอกจากนี้หมออาจตรวจปัสสาวะ วิธีนี้เรียกว่า TWO GLASS TEST เพื่อดูว่า การอักเสบลุกลามไปถึงท่อปัสสาวะส่วนต้นหรือส่วนโคนแล้วหรือยัง

สำหรับผู้หญิง ตรวจภายในธรรมดาๆโดยเอาสารคัดหลั่งมาตรวจหาเชื้อหนองในเทียม แต่ปกติแล้ว ผู้หญิงจะตรวจพบยากกว่าผู้ชาย จึงมักนิยมรักษาฝ่ายหญิงไปพร้อมๆ กับฝ่ายชาย (ยากินที่ใช้รักษาเป็นยาชนิดเดียวกับที่ใช้รักษาผู้ชาย)

ปัจจุบันในประเทศที่พัฒนาแล้วโดยเฉพาะสหรัฐนิยมตรวจหาเชื้อ Chlamydia trachomatis ด้วยวิธี PCR เป็นการตรวจสารคัดหลั่งจากปากมดลูกหรือตรวจจากน้ำปัสสาวะ (ตรวจได้ทั้งชายและหญิง) แต่การตรวจแบบนี้ยังมีราคาแพงและยังไม่เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย ส่วนใหญ่วิธีนี้นิยมใช้กันในโรงพยาบาลใหญ่ๆ หรือคลินิกเฉพาะทางบางแห่งเท่านั้น

ผู้ชาย จะมีโรคแทรกซ้อนตามมา ที่พบบ่อยคือ หนองในลงไข่ อัณฑะอักเสบ ถ้ายังไม่ใส่ใจ ปล่อยทิ้งไว้นาน หรือมัวแต่ซื้อยากินเอง อาจทำให้เป็นหมัน ไม่มีผู้สืบสกุล สูญพันธุ์ได้ (ฮา) โรคอื่นที่อาจตามมาคือ โรค Reiter's syndrome มีอาการ 3 อย่างร่วมกัน คือ ไขข้ออักเสบ เยื่อบุตาอักเสบ และมีปัสสาวะแสบ ขัด

ผู้หญิง เป็นฝ่ายที่น่าสงสาร เพราะอาจไม่รู้ตัวว่ามีเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อ Chlamydia ที่พ่อเจ้าประคุณสามีเอามาฝากโดยไม่บอก ถ้าทิ้งไว้ไม่รักษา อาจเกิดการอักเสบในอุ้งเชิงกราน ปวดท้องน้อยเรื้อรัง ผลที่ตามมาคือ อาจมีลูกยาก เป็นหมัน หรือท้องนอกมดลูกได้ง่าย ถ้าท้องในมดลูกก็อาจแท้งได้ง่าย ในประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีการตรวจคัดกรองเชื้อ Chlamydia เป็นประจำ โดยเฉพาะหญิงวัยเจริญพันธุ์ที่อายุน้อยมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อ (โดยไม่แสดงอาการและไม่รู้ตัว)

หนองในเทียมใช้ยากินเป็นหลัก และมักต้องกินยาวนาน บางรายอาจนานถึง 2 - 3 สัปดาห์ ดังนั้นจึงต้องตั้งใจกิน กินให้หมด หมอให้มากิน ไม่ได้ให้มาเก็บ

มีสามีหรือภรรยาคนเดียว รักเดียวใจเดียวว่างั้นเถอะ แม้แต่กิ๊กก็อย่าไว้ใจ แสบมาแยะแล้ว
ถ้ามีความจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นที่ไม่ใช่ภรรยา ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง และทุกช่องทาง ทั้งช่องบนและช่องล่าง
ถ้าคุณเป็นโรคหนองในเทียมให้งดการมีเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์อาจทำให้ช้ำมากขึ้น และเพื่อป้องกันการรับเชื้อเพิ่ม
อย่าลืมรักษาคู่นอนด้วย มีกี่คน บ้านเล็กบ้านใหญ่ ต้องรักษาให้ครบทุกคน

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

หนองในแท้ (Gonorrhea)

หนองในแท้ หนองในแท้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยในช่วง 20 -30 ปีก่อน เรียกว่าเป็นพระเอกเลยทีเดียว จวบจนมีโรคเอดส์เข้ามา มีการรณรงให้ใช้ถุงยางอนามัยมากขึ้น โรคหนองในก็หายหน้าหายตาไปนาน จวบจนช่วงกลางปี 2546 เริ่มพบหนองในแท้มากขึ้นพร้อมกับข่าวร้ายที่ตามมาด้วย คือเชื้อนี้ดื้อยากินจนไม่อาจใช้ยากินรักษาได้อีกต่อไป หนองในแท้ (Gonorrhea) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถรักษาหายขาดได้ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ Neisseria gonorrhoeae สามารถเกิดได้ทั้งที่อวัยวะสืบพันธุ์ มดลูก ปากมดลูก ช่องท้อง ในช่องปาก ทวารหนัก หรือแม้แต่นัยน์ตาทารกแรกเกิด สำหรับผู้หญิงบางคนรับเชื้อมาแล้วไม่มีอาการหรือมีตกขาวเล็กน้อย ไปซื้อยากินเองอาการสงบลงทำให้เข้าใจว่าไม่เป็น จะมาทราบอีกครั้งก็เมื่อมันลามเข้ามดลูก ไปสู่ปีกมดลูก ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน ปีกมดลูกอักเสบ ทำให้เกิดท้องนอกมดลูก หรือเป็นหมันในที่สุด
 

อาการและการแสดง ฝ่ายชาย หลังรับเชื้อมา 2 - 5 วันก็จะมีอาการปัสสาวะแสบขัด มีหนองไหลจากท่อปัสสาวะ แต่บางรายอาจรวดเร็วทันตาเห็น ไหลในวันรุ่งขึ้นก็เคยเจอ หรือบางรายอาจนานเป็นเดือนแล้วจึงค่อยมีอาการก็มี แต่ก็เป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่มักราว 2 - 5 วันนั่นแหละ มีหลายรายยังซื้อยากินเองแล้วอาการสงบไป ผ่านไปเป็นสัปดาห์ มาอีกทีก็เกิดโรคแทรกซ้อน อัณฑะบวมยากต่อการรักษา หรือบางรายอาจถึงกับเป็นหมันไปก็มี ส่วนฝ่ายหญิง บางรายอาจไม่มีอาการ รับเชื้อมาไว้เฉยๆก็เจอบ่อยๆ จะมาทราบอีกครั้งก็เมื่อชายที่มามีเพศสัมพันธ์ด้วยเกิดการติดเชื้อไป ส่วนคนที่รับเชื้อแล้วมีอาการ อาการที่เป็นก็เช่น ปัสสาวะแสบขัด หรือปัสสาวะมีเลือด มีเลือดออกเวลามีเพศสัมพันธ์ มีตกขาวสีเหลืองออกเขียวเป็นต้น ส่วนรายที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก เมื่อติดเชื้อก็จะมีอาการคันหรือระคายเคืองที่ทวารหนัก อาจมีเมือกหรือหนองออกมาทางทวารหนักเช่นเดียวกับในท่อปัสสาวะ มีคนเข้าใจผิดมากๆหลายราย ที่เข้าใจว่าเวลาไปเที่ยวไม่ใช้อวัยวะสอดใส่ แต่ให้หญิงบริการใช้ปากกับอวัยวะเพศของตนแล้วจะปลอดภัย คนที่เข้าใจอย่างนี้แสบมาแยะแล้ว เพราะในลำคอของหญิงบริการเหล่านี้ มีเชื้อโรคหนองในแท้อาศัยพักอยู่ เพราะเธอก็ไปใช้ปากให้กับผู้ใช้บริการรายอื่นมาก่อน เมื่อมาใช้ปากกับท่าน เชื้อหนองในเลยกระโดดมาติดอวัยวะของท่าน แบบนี้มาฉีดยาแยะแล้วนะครับ จะใช้ปากก็ต้องใส่ถุงยางอนามัยนะครับ

 

 การตรวจวินิจฉัย การตรวจวินิจฉัยไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ เห็นคนไข้บ่อยๆ บางครั้งแค่ฟังประวัติและเห็นลักษณะหนองก็บอกได้แล้วว่าใช่หรือไม่ใช่ ส่วนการตรวจยืนยัน คือการเอาหนองมาย้อมเชื้อส่องกล้องดู

รูปลักษณะหนอง


 


 


 

 
นอกจากการวินิจฉัยข้างต้นแล้ว ถ้าตรวจหาเชื้อไม่เจอ แต่สงสัยมากๆ ก็อาจเอาหนองมาเพาะเลี้ยงเชื้อก็ได้ ใช้เวลา 2 - 3 วันก็รู้ผล หรือปัจจุบันจากน้ำปัสสาวะหรือของเหลวจากปากมดลูกก็อาจนำมาตรวจหา DNA ของเชื้อก็ยังได้
 

ถ้าไม่รักษา อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าไม่รักษา (หรือรักษาเองอาการสงบไป) เชื้ออาจลามลงอัณฑะทำให้อัณฑะอักเสบบวมเจ็บเป็นเหตุให้เป็นหมันหรืออาจลามเข้ากระแสเ ลือด ทำให้เกิดข้ออักเสบ ลิ้นหัวใจอักเสบ หรือแม้แต่เยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ อาการแทรกซ้อนสำหรับฝ่ายหญิงคือทำให้เกิดการอักเสบที่อุ้งเชิงกราน หรือปีกมดลูกอักเสบ บางรายเป็นก้อนหนองที่ปีกมดลุกก็เคยมีให้เห็น ทำให้ท่อตีบตันอาจทำให้เป็นท้องนอกมดลูกตามมา หรืออาจเป็นหมันไปเลยก็ได้ ซึ่งจะนำมาสู่ปัญหาสาธารณสุขต่อไป แต่ที่น่าเป็นห่วงกังวลกว่านั้นก็คือ เมื่อท่านติดเชื้อหนองในได้ ท่านก็อาจติดเชื้อ hiv ได้เช่นกัน เพราะเมื่อเธอรับเชื้อหนองในมาได้ เธอก็อาจรับเชื้อ hiv มาด้วยได้เช่นกัน การรักษา ในตำรากล่าวถึงยารับประทานหลายตัวสามารถรักษาหนองในแท้ได้ แต่ในทางปฏิบัติจริงเชื้อเหล่านี้ดื้อยา จนไม่อาจใช้เป็นแนวทางรักษาได้แล้ว ต้องใช้ยาฉีดอย่างเดียว ดังนั้นถ้าท่านไปมีเพศสัมพันธ์แล้วมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นหนองในแท้ อย่ามัวเสียเวลาซื้อยากินเอง มิฉะนั้นเชื้อจะหลบจนท่านตายใจว่าหายแล้ว สุดท้ายจะเกิดภาวะแทรกซ้อนจนยากจะเยียวยาได้

วัยรุ่น รักได้ รักเป็น ให้สมวัย

วัยรุ่นกับพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสม ถ้าน้องๆเกิดความรู้สึกแบบนี้….นั่นแหละเข้าสู่วัยรุ่น ในวันวาเลนไทน์ อย่าประกันความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์ หันมามอบความรักให้กัน อย่างเหมาะสม รักได้แต่รักอย่างระวังชั่งใจ ระบายอารมณ์อย่างถูกวิธี สาเหตุและปัจจัยของ

 วัยรุ่น รักได้ รักเป็น ให้สมวัย


              วัยรุ่นกับพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสม  ถ้าน้องๆเกิดความรู้สึกแบบนี้….นั่นแหละเข้าสู่วัยรุ่น  ในวันวาเลนไทน์ อย่าประกันความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์  หันมามอบความรักให้กัน อย่างเหมาะสม  รักได้แต่รักอย่างระวังชั่งใจ  ระบายอารมณ์อย่างถูกวิธี  สาเหตุและปัจจัยของการมีเพศสัมพันธ์ 


วัยรุ่นกับเพศสัมพันธ์
ภาพอ้างอิงจาก http://www.uneezone.com/images/news/


วัยรุ่นกับพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสม


               วัยรุ่นเป็นวัยที่มีการเจริญเติบโตทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ อย่างมาก เป็นวัยที่ต้องการปรับตัวอย่างมาก โดยเฉพาะการปรับตัวในเรื่องเพศและการวางตัวกับเพศตรงข้าม วัยรุ่นอาจมีความสับสนความไม่มั่นใจในตนเองในเรื่องดังกล่าว ขณะเดียวกันก็ต้องการยอมรับ ต้องการมีความภาคภูมิใจในตนเอง ต้องการมีแบบอย่างตามที่ตนเองประสงค์ และมักจะเชื่อฟังเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ ดังนั้นทำให้วัยรุ่นจำนวนไม่น้อยที่อาจต้องประสบปัญหากับการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเอดส์ การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ อันนำไปสู่ปัญหาด้านอนามัยเจริญพันธ์เยาวชนหรือวัยรุ่นในยุคปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีความอ่อนแอทางจิตใจ วัฒนธรรมต่างประเทศและการบริโภคสื่อสารมวลชนโดยไม่ไตร่ตรองทำให้สังคมแวดล้อมมีความฟุ้งเฟ้อในระดับมีความเย้ายวนใจให้หวั่นไหวและคล้อยตามได้ง่ายถ้าน้องๆเกิดความรู้สึกแบบนี้นั่นแหละเข้าสู่วัยรุ่น เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม การแตกเนื้อหนุ่ม (สาว) มีความเปลี่ยนแปลงที่อวัยวะเพศ , เสียงเปลี่ยน ใจสับสน อารมณ์ของวัยรุ่นมักเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น โกรธง่าย ดีใจง่าย ทำให้แสดงออกโดยไม่กลั่นกรอง อยากเป็นอิสระ อยากมีเสรีของตนไม่อยู่ในอาณัติของผู้ใหญ่ มักทำให้วัยรุ่นแสดงท่าทีบางอย่างที่ผู้ใหญ่รู้สึกว่า เขาอวดดี ก้าวร้าว ไม่สุภาพอ่อนน้อม หรือท้าทายกฎเกณฑ์ของบ้าน ของโรงเรียน ซึ่งพ่อแม่จำเป็นต้อง สงบ ใจเย็น ให้เขาได้แสดงออกซึ่งความคิดเห็นส่วนตัวเพื่อพ่อแม่จะได้เข้าใจและช่วยส่งเสริมส่วนที่เขาคิดเห็นไม่ถูกต้อง อยากเด่น อยากทัดเทียมเพื่อฝูง ความด้อยในเรื่องรูปร่าง หน้าตา การเงิน สถานภาพทางสังคมและครอบครัว มักทำให้วัยรุ่นรู้สึกมีปมด้อยอย่างรุ่นแรงมากกว่าเด็กวัยอื่น เขาจะพยายามกลบเกลื่อนปมด้อยด้วยวิธีต่างๆ แยกตัวจากกลุ่มเพื่อน แสดงตัวโอ้อวดเพื่อเรียกร้องความสนใจ อยากรู้ อยากเห็น อยากลอง สนใจเพศตรงข้ามและอยากให้เพศตรงข้ามสนใจ การเตรียมการวัยรุ่นให้เข้าใจบทบาทของเพศหญิงและชาย โดยเปิดโอกาสให้เขาได้สังคมกับเพื่อนต่างเพศ จะดีกว่าการปิดกั้นความต้องการนี้อย่างเคร่งครัด อยากรู้จักตัวเอง สับสนในการแสวงหาเอกลักษณ์ของตนเอง ทำให้วัยรุ่นเกิดความไม่มั่นใจ “จะเป็นเหมือนใคร” “จะเป็นหญิงหรือชาย” ความสงบสุขในครอบครัว จะช่วยให้เขารูสึกมั่นคงและภาคภูมิใจที่จะเลียนแบบเอกลักษณ์จากบุคคลที่เขาชื่นชอบ ซึ่งก็คือพ่อแม่นั่นเอง  


ในวันวาเลนไทน์ อย่าประกันความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์


               วันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรักวัยรุ่ยจำนวนหนึ่งมักใช้เป็นวันที่แสดงความรักต่อกันในด้านเพศสัมพันธ์หากใครที่คิดจะฉลองวันแห่งความรักโดยการเป็นของกันและกันย่อมเป็นที่ทราบอยู่แล้วว่าคนนี้รู้หน้า ไม่รู้ใจ หน้าตาหล่อ สวย ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าจะไม่เป็นโรคที่ร้ายแรง จะถ่ายทอดไปยังกันและกันได้ ซึ่งอาจจะนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ภายหลัง ดังนั้นถ้ามีความสุขกันทั้งที แล้วต้องมาคิดมากหลังจากความสุขนั้นผ่านไปแล้วจะคุ้มค่า หรือสู้ป้องกันไว้ก่อนน่าจะดีกว่า ถุงยางอนามัยจึงมีประโยชน์มากในจุดนี้การจัดนิทรรศการ เพื่อเป็นของขวัญให้กับวัยรุ่นโดยการถือเอาวันแห่งความรัก เป็นวันประกาศให้วัยรุ่นได้ตระหนักถึงความรักที่เหมาะสมกับวัยและวัฒนธรรมอันดีงามของชาติเพื่อให้มีความสุขเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพและสุขภาพอนามัยดี ทั้งร่างกายและจิตใจ


หันมามอบความรักให้กัน อย่างเหมาะสม


          การร่วมเพศนั้นมิใช่เป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความสุขให้แก่ชาย หญิงเพียงฝ่ายเดียว ธรรมชาติ ให้การร่วมเพศเป็นการที่มนุษย์เราจะสามารถสืบพันธ์มีลูกมีหลานสืบต่อเนื่องกันได้ คู่หนุ่มสาวทุกคู่จึงควรศึกษาถึงผลแห่งความรักหรือที่เรียกว่า “พยานรัก” อันที่จะติดตามมาทุกครั้งที่หลั่งน้ำอสุจิฝ่ายชายจะปลดปล่อยเชื้ออสุจิมากมายหลายล้านตัวในน้ำอสุจินั้นให้แหวกว่ายไปตามช่องคลอด ผ่านมดลูกไปสู่ท่อรังไข่ ตัวอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่จะสามารถเจาะผนังของไข่เข้าไปผสมพันธุ์ได้ ไข่ที่ได้รับการผสมพันธุ์แล้วจะเคลื่อนตัวลงมาที่มดลูดไข่จะฝังตัวเข้ากับเยื่อผนังมดลูก 


การร่วมเพศ
ภาพอ้างอิงจากhttp://hilight.kapook.com/view/7595



รักได้แต่รักอย่างระวังชั่งใจ


           น้องวัยรุ่นชายแน่ใจหรือเปล่าว่าหญิงสาวคนนี้ คือ คนที่คุณต้องการร่วมชีวิตจริงๆ แน่ใจไหมว่าพร้อมจะรับผิดชอบภาระผูกพันที่อาจตามมา เช่น ฝ่ายหญิงอาจท้องจนเกิดปัญหาในการตั้งครรภ์อย่างเต็มใจ แน่ใจได้อย่างไรว่าแฟนคุณไม่เคยมีใครหรือมีเพศสัมพันธ์กับใครมาก่อน ที่สำคัญจะมั่นใจได้อย่างไร เธอไม่มีไวรัสเอดส์อยู่ในตัว น้องๆวัยรุ่นหญิง“ยังไง…….เราก็ไม่ถอดผ้า”ผู้หญิงมามารถสร้างความสุขเล็กๆน้อยๆ โดยการสัมผัสแตะต้องกันภายนอก เช่น จับมือ โอบไหล่ โอบเอว กอดจูบ ฯลฯ แต่ไม่ควรเลยเถิดถึงการมีเพศสัมพันธ์ “มือช่วยเท่านั้น เขาก็มีความสุขแล้ว”ผู้หญิงสามารถช่วยระบายอารมณ์ทางเพศให้ฝ่ายชายได้โดยการลูบคลำอวัยวะเพศจนเขาถึงความสุขสุดยอด “หยุดไม่ได้..ยังไงก็ต้องใช้เกราะป้องกัน”หากอารมณ์รักพาไปสู่การมีเพศสัมพันธ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ น้องๆก็ควร “พร้อมที่จะมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยโดยกล้าพูดคุยตกลงว่า “ยังไงๆก็ต้องใช้ถุงยาง” เพื่อความสบายใจ , ปลอดภัย และไม่เกิดปัญหาที่คาดไม่ถึงตามมา 


                


ถุงยาง
 ภาพประกอบจาก  http://power.lannapoly.ac.th/5.gif


ระบายอารมณ์อย่างถูกวิธี


              ดีแล้วแหละครับ ที่น้องๆคิดได้ว่าไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ในวัยที่ยังไม่เหมาะสม แต่น้องๆก็ควรมีโอกาสเรียนรู้เรื่องเพศได้จากหนังสือ ภาพยนตร์ หรือพูดคุยกับเพื่อนสนิทและลองใช้ทางเลือกต่อไปนี้


              หากิจกรรมทำยามว่างให้เพลิดเพลิน เช่น อ่านหนังสือ ท่องเที่ยว ฟังคนตรี เล่นกีฬา ปลูกต้นไม้ หรือทำกิจกรรมเป็นประโยชน์อื่นๆ ปรึกษา สอบถามพ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้ที่เราวางใจได้ เรื่องเพศศึกษาหรือปัญหาต่างๆ ที่ยังไม่รู้ ใช้ “วิธีการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง”


สาเหตุและปัจจัยของการมีเพศสัมพันธ์


           กลุ่มวัยรุ่นเพศชายอยากรู้อยากลองเพื่อนชวนดื่มสุราหรือของมึนเมาเสพสารเสพติด ค่านิยม ขึ้นครู การมีเพศสัมพันธ์กับหญิงขายบริการต้องการพิสูจน์ความเป็นผู้ชาย การไปเที่ยวสถานเริงรมย์การดูสื่อยั่วยุอารมณ์ทางเพศคิดว่าคนมีการศึกษาคงไม่ติดเอดส์คิดว่าลองเสี่ยงเพียงครั้งเดียวคงไม่ติดเชื้อคิดว่าคงไม่โชคร้ายเกินไปกลุ่มวัยรุ่นเพศหญิงขาดความรู้และทักษะในการป้องกันตัวไม่รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของผู้ชายมองโลกในแง่ดีเลียนแบบวัฒนธรรมตะวันตกคิดว่าเป็นสิ่งที่ทันสมัยรักสนุกดื่มสุราและเสพของมึนเมาติดยาเสพติด วัตถุนิยม ความอยากได้ทรัพย์สินสิ่งของจนยอมเอาตัวเข้าแลก ไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ คิดว่าเป็นบทสรุปของความรัก ขาดความรัก ความอบอุ่นจากครอบครัว คิดว่าคู่นอนรักเดียวใจเดียวคิดว่าคู่ที่ดูดีมีการศึกษาคงไม่ติดเชื้อเอดส์ คิดว่าครั้งเดียวคงไม่เป็นไร


      เนื้อหาสำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา  ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4-6


     ช่วงชั้นที่ 4


         ประเด็นคำถาม


               1. การมอบความรักให้กัน  จำเป็นด้วยหรือต้องมีเพศสัมพันธ์
               2. จงบอกวิธีระบายอารมณ์ทางเพศอย่างถูกวิธี
               3. จงบอกสาเหตุปัจจัยที่มีเพศสัมพันธ์


         กิจกรรมเสนอแนะ


        ให้นักเรียนศึกษาเพิ่มเติม เอกสารประกอบการเรียน  หรือหนังสืออ่านเพิ่มเติมและสำรวจตนเอง ให้มีความปลอดภัยจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้องและเหมาะสม


        บูรณาการกลุ่มสาระ


1. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับเพศและสิ่งแวดล้อม
ข้อมูลจาก   http://www.mhso.moph.go.th/aid
ภาพอ้างอิงจากhttp://hilight.kapook.com/view/7595
อึ้ง! วัยรุ่นให้ของขวัญวาเลนไทน์ ด้วย Sex 

เซ็กซ์-มิติ”เพศ” คนไทยยุคไซเบอร์


เซ็กซ์-มิติ”เพศ” คนไทยยุคไซเบอร์
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล จัดประชุมวิชาการประจำปี ครั้งที่ 4 “ประชากรและสังคม 2551″ เรื่อง มิติ “เพศ” ในประชากรและสังคม ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ มีผลงานวิจัยด้านสตรีและเรื่องเพศที่น่าสนใจหลายเรื่อง

รศ.กฤตยา อาชวนิจกุล รองผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดผลงานวิจัย เรื่อง “เซ็กซ์ครั้งแรกของสังคมไทยต้องการหรือถูกบังคับ คู่นอนคือใครและใช้ถุงยางหรือไม่” สำรวจเรื่องพฤติ กรรมทางเพศในประ เทศไทยปี 2549 จากกลุ่มอายุ 18-24 ปี และกลุ่มอายุ 29-59 ปี ในเขตเมืองและชนบท 14 จังหวัด จาก 75 จังหวัด ไม่รวมกรุงเทพฯ ชายและหญิงรวม 6,048 คน อย่างละครึ่ง

พบว่า เซ็กซ์ครั้งแรกของชายไทย ร้อยละ 93 เป็นที่ต้องการของตนเอง ขณะที่ผู้หญิง ร้อยละ 79 เป็นการยินยอม ในทางกลับกัน 1 ใน 5 ของผู้หญิง ทุกกลุ่มอายุ มีเซ็กซ์ครั้งแรกแบบไม่ยินยอมพร้อมใจ และที่น่าตกใจคือคนที่มีเซ็กซ์ครั้งแรกเมื่ออายุ 10-14 ปี หรือร้อยละ 46 เป็นเซ็กซ์ที่ไม่ตั้งใจ

การสำรวจพบด้วยว่า ผู้หญิงครึ่งหนึ่งมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับคนคุ้นเคย ได้แก่ สามี ร้อยละ 54 รองลงมาคือแฟน ร้อยละ 40 ขณะที่ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับภรรยาไม่ถึงร้อยละ 10 แต่มากกว่า 1 ครั้ง มีเซ็กซ์ครั้งแรกกับแฟนร้อยละ 54 รองลงมาคือกับเพื่อนร้อยละ 15 และผู้หญิงบริการ ร้อยละ 12.5 อัตราการใช้ถุงยางอนามัยของหญิงบริการกับชายนักเที่ยว ร้อยละ 97 ใช้ถุงยางอนามัย แต่ถ้าเป็นแฟนหรือคู่รักแล้วหญิงบริการมักไม่ใช้ถุงยางร้อยละ 69 และหากเป็นแขกขาประจำ พบว่าไม่ค่อยใช้ถุงยางอนามัยอีกเช่นกัน

รศ.กฤตยากล่าวต่อว่า จากการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศ ข่าวสารและบทความย้อนหลัง 10 ปี จำนวน 17,000 ชิ้น พบว่า ข่าวสารส่วนใหญ่เป็นเรื่องความรุนแรง ร้อยละ 64 และเรื่องข่มขืน ร้อยละ 35

การบังคับขืนใจทางเพศเกิดจากคนใกล้ตัวมากกว่าคนแปลกหน้า เช่น สามี แฟน เพื่อนหรือญาติพี่น้อง ปู่ พ่อ ลุง และครู อาจารย์ นอกจากนี้พบว่าผู้หญิงมากกว่า 2 ใน 3 ถูกแฟนบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ร้อยละ 65

ในเรื่องการใช้ถุงยางอนามัย พบว่าเซ็กซ์ครั้ง แรกของคนไทยไม่นิยมใช้ เพราะถือว่าเป็นเครื่องกีดขวางสุนทรียรสการมีเพศสัมพันธ์ มีความคิดว่า การไม่ใช้ถุงยางอนามัยแสดงถึงความรัก ความไว้ใจ ความซื่อสัตย์ ถ้ารักกันจริงต้องไม่ใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดปัญหาการติดเชื้อของผู้หญิงและวัยรุ่นมากขึ้น และความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างผู้กระทำกับผู้ถูกกระทำ ทำให้ตกอยู่ในวงจรอำนาจที่แยบยล เช่น สถานภาพครูกับลูกศิษย์ ผู้ใหญ่กับผู้น้อย พ่อกับลูก นายจ้างกับลูกจ้าง เจ้าหนี้กับลูกหนี้ รุ่นพี่กับรุ่นน้อง

สําหรับผลสำรวจ “รสนิยมทางเพศของเด็กไทยยุคไซเบอร์” โดย รศ.ศิรินันท์ กิตติสุขสถิต จากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี 2547 พบว่า วัยรุ่นส่วนใหญ่ร้อยละ 91.4 ให้คำตอบกับรสนิยมทางเพศของตนว่ารักเพศตรงข้าม และมีเพียงส่วนน้อย ร้อยละ 3.4 ที่รักเพศเดียวกัน และร้อยละ 5.2 บอกว่ารักทั้งสองเพศ ซึ่งไม่ประหลาดใจ เพราะสังคมส่วนใหญ่คาดหวังที่จะได้คำตอบตามกรอบประเพณี

เมื่อจำแนกกลุ่มตัวอย่างเพศหญิงและชาย พบว่า วัยรุ่นหญิงมีรสนิยมรักเพศเดียวกัน ร้อยละ 5.4 มากกว่าวัยรุ่นชายเพียงเล็กน้อย ร้อยละ 1.5

ส่วนรสนิยมที่รักทั้งสองเพศ ก็พบว่าวัยรุ่นหญิง ร้อยละ 8.4 ระบุว่ารักทั้งสองเพศ มากกว่าวัยรุ่นชายเป็น 4 เท่า หรือร้อยละ 1.9 จากผลสำรวจยืนยันได้ว่าวัยรุ่นหญิงยอมรับและเปิดเผยรสนิยมรักเพศเดียวกันมากกว่าวัยรุ่นชาย

ในคำถามว่า ถ้าเพื่อนสนิทมีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน เช่น เป็นเกย์ ทอม ตุ๊ด ดี้ จะรู้สึกอย่างไร คำตอบร้อยละ 25.6 เห็นด้วยและยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดา ขณะที่ร้อยละ 42.2 ยอมรับได้น้อย

ในหัวข้อ วัยรุ่นไทยกับการจำแนกตามรสนิยมทางเพศและการปรึกษาเรื่องเพศจากสื่อ พบว่า อินเตอร์เน็ตเป็นช่องเปิดโอกาสให้วัยรุ่นไทยมีรสนิยมรักทั้งสองเพศและรักเพศเดียวกันได้ค้นคว้าหาความรู้ความเข้าใจเรื่องเพศ

โดยวัยรุ่นที่รักเพศเดียวกันร้อยละ 46.2 และวัยรุ่นที่รักทั้งสองเพศร้อยละ 40.0 และกลุ่มรักต่างเพศ ร้อยละ 34.3 ระบุว่า สื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ต

ในส่วนของกลุ่มหญิงบริการ ผลการสำรวจเรื่อง “เซ็กซ์กับสุขภาพทางเพศในพนักงานบริการหญิง” จัดทำโดย ดุสิตา พึ่งสำราญ นักวิจัยประจำสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับกลุ่มเพื่อนพนักงานบริการ (SWING) พบว่า หญิงบริการมีอายุและการศึกษาสูงขึ้นกว่าเดิม และหญิงบริการร้อยละ 35 มีแฟน สามี และร้อยละ 94 เคยแต่งงานมาก่อน โดย 1 ใน 3 มีคู่มากกว่า 1 คน ซึ่งแฟน คู่หรือคนพิเศษนั้นเป็นแขกที่มาซื้อบริการและดูแลเรื่องการเงินให้

ข้อมูลดังกล่าวได้จากการสำรวจและสัมภาษณ์พนักงานบริการหญิง เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ปี 2550 ใน 4 จังหวัด คือ กรุง เทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ และสงขลา จากสถานบริการและพนักงานบริการทางเพศ 6 ประเภท ได้แก่ ซ่อง บ้านสาว อาบอบนวด อะโกโก้ บาร์เบียร์ คาราโอเกะ และพนักงานบริการหญิงอิสระ

การสำรวจนี้พบด้วยว่า หญิงบริการผ่านการมีลูกมาแล้วอย่างน้อย 1 คน ถึงร้อยละ 63 แต่มีเพียงส่วนน้อยที่อาศัยอยู่กับลูกโดยจะส่งไปให้ปู่ย่าตายายดูแล ร้อยละ 12 ขณะที่ร้อยละ 44 บอกว่าอยู่คนเดียว ร้อยละ 35 อยู่กับเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน และร้อยละ 22 อยู่กับแฟน สามี และคู่ครอง

ทั้งนี้ ยังพบว่าส่วนใหญ่สมัครใจมาทำงานและมักเป็นผู้ที่เคยมีคู่ครองมาแล้ว โดยร้อยละ 69 มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอายุ 15-24 ปี มีเพียงร้อยละ 8.4 ที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกก่อนอายุ 15 ปี และร้อยละ 83 ของพนักงานบริการ มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกจากคู่ครอง แฟน มีเพียงร้อยละ 6 เท่านั้นที่บอกว่ามีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับลูกค้า

ส่วนการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ พบว่า ร้อยละ 99.5 รู้จักเอชไอวี แต่เกือบครึ่งหนึ่งไม่รู้จักโรคติด ต่อทางเพศสัมพันธ์ถึงร้อยละ 43

แม้ว่าสถานบริการบางแห่งมีกฎให้มีการตรวจภายในหลังรับแขกหรือก่อนรับเงินเดือน แต่ยืนยันไม่ได้ว่าผ่านการตรวจมาแล้ว เช่น ก่อน 6 เดือนที่มีการสัมภาษณ์พนักงานบริการหญิงในบาร์เบียร์ ร้อยละ 46 บาร์อะโกโก้ ร้อยละ 20 และอาบอบนวดร้อยละ 5 ไม่เคยรับการตรวจโรค และยังพบว่าผู้หญิงจำนวนหนึ่งไปคลินิกเอกชนเพื่อซื้อใบรับรองแพทย์ นำไปยืนยันว่าผลการตรวจเป็นปกติโดยไม่ต้องเข้ารับการตรวจ

ข้อมูลจากข่าวสด

ผู้ติดตาม