รักแร้เป็นผิวหนังที่บอบบาง ประกอบด้วยต่อมเหงื่อและรูขุมขนจำนวนมาก ซึ่งต่อมเหงื่อของคนเรามี 2 ประเภท คือ
ต่อม Eccrine ที่มีอยู่ทั่วร่างกายทำหน้าที่ผลิตเหงื่อ ลดอุณหภูมิของร่างกาย
และต่อม Apocrine ซึ่งพบในพื้นที่เฉพาะเช่นรักแร้ ราวนม(ในบางคน) บริเวณอวัยวะเพศ และขาหนีบ
เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น (อายุ11-12 ปี) ต่อม Apocrine จะสร้างสารเคมีที่มีกลิ่นเฉพาะตัวเรียกว่า "กลิ่นตัวหรือกลิ่นกาย" บอกถึงความเป็นหนุ่มสาว เป็นเสน่ห์ แต่ละคนมีต่อม Apocrine ไม่เท่ากัน หากมีมากเหงื่อบริเวณรักแร้จะมากตามไปด้วย ประกอบกับว่าบริเวณนี้มีเชื้อแบคทีเรียอาศัยอยู่ กลิ่นกายจึงอาจเปลี่ยนเป็นกลิ่นตัวได้ค่ะ
โดยทั่วไปแล้วเราสามารถแก้ปัญหากลิ่นตัวได้ง่ายๆ โดยกำจัดเชื้อแบคทีเรียให้มากที่สุด เช่น อาบน้ำบ่อยๆ ชำระล้างเหงื่อออก ใช้สบู่ฆ่าเชื้อทำความสะอาด ใช้ยาระงับกลิ่นกาย ขจัดขนรักแร้ออกให้หมดเพื่อลดการสะสมของเหงื่อ และกำจัดที่อยู่ของเชื้อแบคทีเรีย
แต่ในคนที่มีปัญหามาก อาจต้องขอคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนังเพื่อใช้ยาปฏิชีวนะแบบครีม ทาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น นีโอมัยซิน หรือ เจนต้ามัยซินครีม และถึงแม้ว่ายาทั้งสองแบบจะมีขายตามร้านขายทั่วไป แต่ก็ไม่ควรซื้อมาใช้เองเพราะอาจเกิดอาการแพ้ยาได้ นอกจากนี้ยังมีการฉีดโบท็อกที่รักแร้ เพื่อลดเหงื่อให้น้อยลงและแห้งสนิทภายใน 7 วัน โดยการฉีด 1 ครั้ง สามารถลดเหงื่อได้ 4-6 เดือน เมื่อยาหมดฤทธิ์เหงื่อจะไหลอีก ซึ่งต้องอาศัยการฉีดซ้ำ ค่ารักษาประมาณครั้งละ 10,000 - 12,000 บาท
โรลออนกับสารก่อมะเร็ง
แม้จะเคยมีข่าวว่าสารอลูมิเนียมในโรลออนอาจทำให้ผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านม แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าเป็นจริง และโดยปกติสารอลูมิเนียมไม่สามารถซึมเข้าร่างกายได้เหมือนสารปรอทและตะกั่ว จึงไม่น่าทำอันตรายต่อร่างกายได้ ยกเว้นผู้มีอาการแพ้สารอลูมิเนียมในบางคนที่อาจเกิดรอยดำหรืออักเสบ ควรแก้ไขด้วยการเปลี่ยนโรลออนที่ใช้สารอื่นแทน
สารส้ม (Alum) หรือเกลือเชิงซ้อน ที่มีสารอลูมิเนียมและซัลเฟตเป็นส่วนประกอบหลัก เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ คนไทยโบราณรู้จักใช้มานานแล้ว สารส้มไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่เปื้อนเสื้อผ้า และปลอดภัยกับร่างกายเพราะไม่อุดตันรูขุมขน ใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกาย ทั้งใต้วงแขน เท้า ช่วยระงับกลิ่นได้ดี
และด้วยคุณสมบัติความเป็นด่างในตัว เมื่อมาเจอกับความเป็นกรดของเหงื่อจึงหักล้างกันทำให้กลิ่นตัวหมดไป และสารส้มยังสามารถใช้ทาส้นเท้าป้องกันและรักษาส้นเท้าแตก หรือทาแก้คันตามผิวหนังเมื่อยุงกัดหรือคันจากสาเหตุอื่นได้อีกด้วย
ปัจจุบันมีผู้นำสารส้มมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นทั้งรูปแบบของโรลออน สเปรย์ แป้ง กันหลายยี่ห้อ ได้รับความนิยมมากในต่างประเทศเพราะปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
ส่วนปัญหารักแร้ดำ ทำไงดี
ตามปกติแล้วผิวใต้วงแขนจะมีสีคล้ำกว่าผิวส่วนอื่นๆ เล็กน้อยเพราะเป็นส่วนที่ผิวย่นมารวมกันเหมือนคอ หรือบริเวณขาหนีบ แต่หากผิวส่วนนี้ดำคล้ำกว่าสีผิวส่วนอื่นอาจเป็นไปได้ว่าเกิดความผิดปกติขึ้น ควรพิจารณาหาสาเหตุและรักษาอย่างเร่งด่วน
ปัญหารักแร้ดำเกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่สำคัญคือ การสัมผัสสารเคมีอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดการระคายเคืองและรอยดำ จากน้ำหอม สารกันเสีย หรือยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น Triclosan, Triclocarban, Irgosan ในยาระงับกลิ่นกาย การรักษาจึงต้องแก้ไขตามอาการ หากเป็นการแพ้น้ำหอม ควรเปลี่ยนไปใช้โรลออนชนิดที่ไม่มีสารสร้างกลิ่นหอมที่ระบุว่า "Fragrance-Free" โดยสังเกตส่วนประกอบสำคัญบนฉลาก หากมีชื่อสารที่แพ้ควรหลีกเลี่ยงไปใช้ยาระงับกลิ่นแบบอื่นแทน
ความอ้วนและการเสียดสีก็เป็นอีกสาเหตุของรักแร้ดำได้ การแก้ไขจึงควรลดน้ำหนักและใช้ยาลดรอยดำ หรือไวท์เทนนิ่งทาควบคู่กัน แต่ไม่ควรใช้กลุ่มที่มีกรดผลไม้ ไม่ว่า AHA หรือ BHA เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองยิ่งขึ้น แต่ถ้ารักแร้ดำและนูนเหมือนกำมะหยี่ (มักพบในคนเป็นโรคเบาหวาน) ควรพบแพทย์ทันทีค่ะ
อย่างไรก็ตามการรักษาปัญหารักแร้ดำควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเป็นผู้วิเครา ะห์สาเหตุเพื่อให้ได้ผลตรงกับอาการและรักษาได้ถูกวิธีที่สุด เพราะหากซื้อยามาใช้เองอาจทำให้ปัญหาลุกลามมากขึ้น
ทำไมจึงเป็นหนังไก่
ปัญหาหนังไก่บริเวณรักแร้เกิดจาก 2 สาเหตุ คือ การถอนขนรักแร้และขนคุด
รักแร้เป็นส่วนที่มีเส้นขนปกคลุมเพื่อลดการเสียดสีของผิวหนังใต้วงแขน แต่การกำจัดขนด้วยการถอนอย่างรุนแรงหรือการแว็กซ์บ่อยครั้งจะทำให้รูขุมขนเด่นชัดขึ้ น ดูคล้ายหนังไก่ ทั้งยังจำกัดทางขึ้นของขนเส้นใหม่ กลายเป็นขนคุดอยู่ภายใน มองเห็นเป็นหนังไก่ได้เช่นกัน
การรักษาหนังไก่จึงควรเปลี่ยนวิธีการกำจัดขน อย่าถอนขนรุนแรง เมื่อผ่านไปสักระยะรูขุมขนจะยุบตัวลงเช่นเดิม ปัญหาหนังไก่ก็จะหมดไปค่ะ
นานาวิธีกำจัดขน
การกำจัดขนรักแร้เดี๋ยวนี้ทำได้ไม่ยุ่งยากและมีหลายวิธีได้แก่
เป็นวิธีที่ง่าย เร็ว สะดวก แต่ขนที่ขึ้นใหม่แข็งและหยาบขึ้น เพราะขนที่ขึ้นใหม่ปลายจะตรง ปัญหาของการโกนคือ ขนที่ขึ้นใหม่จะเป็นตอ หากขูดผิวมากๆ อาจเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ และต้องทำบ่อย
การถอน เป็นวิธีที่สะดวก ทำให้ขนถูกถอนออกมาทั้งเส้นแต่ปัญหาคือยุ่งยากเสียเวลาและอาจทำให้เกิดปัญหาขนคุดและ หนังไก่ได้
การใช้ครีมกำจัดขน อาจทำโดยแว็กซ์ขี้ผึ้งร้อน หรือเย็นแปะผ้าลงไปแล้วดึงย้อนขึ้น ไม่ยุ่งเกี่ยวกับรูขุมขน การแว็กซ์มีข้อดีคือทิ้งช่วงได้นานถึง 6 สัปดาห์ เพราะขนขึ้นช้าทำให้ไม่ต้องทำบ่อยๆ และขนใหม่อ่อนนุ่มขึ้น แต่มีข้อเสียคือ หากกระตุกแรงอาจมีรากขนขาดเกิดเป็นขนคุดอยู่ข้างใน หรืออาจเกิดการระคายเคืองในบางคน
การทำลายขนกึ่งถาวร เป็นการถอนขนด้วยเลเซอร์ เช่น ชนิดเอ็น ดี แยค (Nd: YAG Laser) หรือใช้แสงทำลายตำแหน่งสร้างขนโดยตรงที่เรียกว่า "Aestilight" การใช้แสงเลเซอร์กำจัดขนต้องเลือกใช้เครื่องที่มีความยาวคลื่นเหมาะกับการกำจัดขน เช่น 1064 นาโนเมตร ซึ่งเป็นระดับที่ใช้กำจัดขนได้ดีมีผลข้างเคียงน้อย ทำได้ดีในคนผิวสีเพราะไม่ทิ้งรอยดำ แต่หากเป็นคลื่นที่สั้นหรือยาวเกินไปอาจทิ้งรอยดำได้ การกำจัดขนรักแร้ด้วยเลเซอร์ต้องทำ 4ครั้งขึ้นไป ค่าใช้จ่ายประมาณ 15,000-18,000 บาท โดยผลการรักษาจะอยู่ที่ประมาณ 6 ปี
Friends talk contact man love
manes2006@ovi.com
Recommended.
คลังบทความน่ารู้ของบล็อก
-
►
2024
(1)
- ► 09/15 - 09/22 (1)
-
►
2021
(1)
- ► 11/21 - 11/28 (1)
-
▼
2010
(54)
- ► 08/08 - 08/15 (1)
- ► 06/20 - 06/27 (3)
- ► 05/23 - 05/30 (1)
- ► 03/07 - 03/14 (2)
- ► 02/28 - 03/07 (1)
- ► 02/21 - 02/28 (1)
- ► 02/14 - 02/21 (1)
- ► 02/07 - 02/14 (4)
- ► 01/31 - 02/07 (13)
- ► 01/24 - 01/31 (13)
- ► 01/17 - 01/24 (8)
- ► 01/03 - 01/10 (4)
-
►
2009
(11)
- ► 12/27 - 01/03 (6)
- ► 12/20 - 12/27 (4)
- ► 11/22 - 11/29 (1)